
บจ.ลดจ้างงาน เซ่นพิษเศรษฐกิจชะลอ
หลังจากประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตลาดแรงงานไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง
เส้นทางนักลงทุน
SET Note ซึ่งเป็นบทวิจัยที่จัดทำโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้เปิดเผยถึงการจ้างงานของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ระบุว่า หลังจากประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตลาดแรงงานไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยในปี 2567 มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่รวมทั้งสิ้น 87,596 ราย ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 14 ปี เพิ่มขึ้น 2,296 ราย หรือคิดเป็น 2.69% จากปีก่อน
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาด้านมูลค่าทุนจดทะเบียนของธุรกิจใหม่เหล่านี้ พบว่า มีมูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 285,745 ล้านบาท ลดลง 49.20% จากปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของธุรกิจใหม่ที่จดทะเบียนในปี 2567 ว่าเป็นธุรกิจที่มีขนาดทุนจดทะเบียนเล็กลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยประเภทของธุรกิจที่จัดตั้งใหม่ พบว่า ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารทั่วไป อสังหาริมทรัพย์ และภัตตาคารหรือร้านอาหาร
และหากพิจารณาในส่วนของการจดทะเบียนยกเลิกธุรกิจ พบว่ามีการจดทะเบียนยกเลิกธุรกิจรวมทั้งสิ้น 23,679 ราย ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้น 1.28% จากปีก่อนหน้า โดยธุรกิจเหล่านี้มีมูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 171,180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.98% จากปีก่อนหน้า และธุรกิจที่ยกเลิกกิจการดำเนินธุรกิจลักษณะเดียวกับธุรกิจจัดตั้งใหม่ (ก่อสร้างอาคารทั่วไป อสังหาริมทรัพย์ และภัตตาคารหรือร้านอาหาร) ซึ่งจากการยกเลิกการดำเนินกิจการเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ส่งผลให้อัตราการว่างงาน ณ สิ้นปี 2567 ขยับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 0.88% จาก 0.81% ณ สิ้นปี 2566 ทั้งนี้อัตราการว่างงานยังดีกว่าค่าเฉลี่ยช่วงที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่อยู่ที่ระดับ 1.17%
อย่างไรก็ดี ณ สิ้นไตรมาสที่ 1/2568 อัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 0.89% ซึ่งเป็นผลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่ส่งผลให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่มีความเปราะบาง ส่งผลให้ชะลอการลงทุนและการจ้างงานใหม่ อีกทั้งบางธุรกิจมีความจำเป็นที่ต้องลดจำนวนพนักงานเพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน
แม้ว่าในปี 2567 เศรษฐกิจโดยรวมเมื่อพิจารณาการเติบโตจาก GDP ของประเทศไทยที่เติบโตเพียง 2.5% ขณะที่รายได้รวมของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เติบโตสูงกว่า GDP ของไทย อีกทั้ง บริษัทจดทะเบียนยังคงใช้ตลาดหุ้นไทยเป็นกลไกในการระดมทุน ซึ่งในปี 2566 และปี 2567 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยมีมูลค่าระดมทุนรวมทั้งในตลาดแรกและในการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน โดยมีมูลค่าระดมทุนรวมกว่า 288,156 ล้านบาท
โดยจำแนกเป็นการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 72 บริษัท มีมูลค่าระดมทุนสูงกว่า 58,710 ล้านบาท และบริษัทจดทะเบียนไทยได้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในตลาดรอง (SPO) จำนวน 329 บริษัท มีมูลค่าระดมทุนรวม 229,445 ล้านบาท ซึ่งจากการเพิ่มทุนและการเข้ามาจดทะเบียนซื้อขายใหม่ในตลาดหุ้นไทย ย่อมส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น เมื่อพิจารณาการจ้างงานจากฐานข้อมูลจำนวนพนักงานของบริษัทจดทะเบียนที่ซื้อขายในตลาดหุ้นไทย พบว่า ณ สิ้นปี 2567 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย 848 บริษัท มีจำนวนพนักงานรวม 1,988,063 คน เพิ่มขึ้น 21,590 คน หรือเพิ่มขึ้น 1.10% จากสิ้นปี 2566 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นสุทธิของจำนวนพนักงานในบริษัทจดทะเบียนใน SET รวม 18,932 คน และใน mai รวม 2,658 คน
เมื่อพิจารณาจำนวนพนักงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยในปี 2567 เปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยจำแนกออกเป็น 3 กลุ่ม พบว่า ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเปิดเผยจำนวนพนักงานของบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ในปี 2567 ขณะที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดก่อนปี 2567 มีจำนวนพนักงานเพิ่มขึ้นสุทธิรวม 4,735 คน ตามรายละเอียด ดังนี้
- กลุ่มที่ 1 การจ้างงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดก่อนปี 2567 พบว่า มีจำนวนพนักงานเพิ่มขึ้นสุทธิ 4,735 คน
- กลุ่มที่ 2 การจ้างงานของบริษัทจดทะเบียนที่จดทะเบียนเข้าซื้อขายใหม่ในปี 2567 ซึ่งมีจำนวนพนักงานรวม 23,878 คน และ
- กลุ่มที่ 3 การหยุดเปิดเผยข้อมูลจำนวนพนักงานของบริษัทจดทะเบียนที่ถูกเพิกถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน ในปี 2567 รวม 5,745 คน
ณ สิ้นปี 2567 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย มีสัดส่วนการจ้างงานคิดเป็น 5% ของจำนวนผู้มีงานทำทั้งหมดในประเทศไทย เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก ณ สิ้นปี 2566 ที่อยู่ที่ระดับ 4.9%
เมื่อพิจารณาการจ้างงานของจำนวนพนักงานบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย เทียบกับจำนวนผู้มีงานทำทั้งหมดในประเทศไทย ที่มีจำนวน 39,810,000 คน พบว่า ณ สิ้นปี 2567 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยมีสัดส่วนการจ้างงานคิดเป็น 5% ของจำนวนผู้มีงานทำในประเทศไทย เพิ่มขึ้นจาก 4.9% ณ สิ้นปี 2566
โดยสรุปอาจกล่าวได้ว่า ตลาดหุ้นไทยมีส่วนสำคัญในการจ้างงานในประเทศไทย โดยกลุ่มบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นสูงสุด อย่างไรก็ตาม การจ้างงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และทิศทางเศรษฐกิจและนโยบายภาษีของประเทศคู่ค้า ซึ่งภาครัฐควรให้ความสำคัญและเตรียมนโยบายสนับสนุนเพื่อรักษาระดับการจ้างงาน