ฝากผลงานอำลา

บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) นอกจากภารกิจการสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งทางพลังงานให้กับบริษัทแม่ปตท.หรือ PTT แล้ว


บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) นอกจากภารกิจการสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งทางพลังงานให้กับบริษัทแม่ปตท.หรือ PTT แล้ว

ยังต้องร่วมผลักดันภารกิจทางยุทธศาสตร์ใหญ่ในการบรรลุเป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็น 0 ที่บริษัทแม่เร่งเป้าหมายเร็วขึ้นอีก 15 ปีในปี ค.ศ. 2050 หรือ พ.ศ. 2593 โน่น

“บิ๊กโปรเจกต์” ของไทยออยล์เพื่อบรรลุสู่เป้าหมาย นั่นก็คือโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project) หรือ CFP ที่ริเริ่มมาแต่ผู้บริหาร TOP ยุคก่อน ๆ และโครงการมาสะดุดเอาตอนบัณฑิต ธรรมประจำจิตเข้ารับตำแหน่งซีอีโอเมื่อช่วงต้นปี 2566

ปัญหาใหญ่คือ ผู้รับเหมาต่างชาติทั้งซัมซุงเกาหลีและอิตาลี เมื่อรับเงินตามงวดงานจากไทยออยล์ไปแล้ว แต่ไม่ยอมนำเงินไปจ่ายผู้รับเหมาช่วงซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการชาวไทยจนกระทั่งไม่มีผู้รับเหมาช่วงมาทำงานให้

โครงการ CFP ก็ต้องสะดุด บริษัทข้ามชาติระยำตำบอนดังกล่าว รับเงินไปจากไทยออยล์ แต่ไม่ยอมเอาเงินไปเคลียร์หนี้ ในที่สุดซีอีโอ ที่เพิ่งเข้ามารับงานใหม่ต้องแจ้งบอกเลิกสัญญาผู้รับเหมา และการจะเดินหน้าโครงการต่อก็ต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มอีกประมาณ 6.3 หมื่นล้านบาท

นี่ละ! ที่เป็นภาระใหญ่สุดของซีอีโอใหม่อย่างบัณฑิต ธรรมประจำจิต จะต้องฝ่าฝันไปให้ได้ เพราะหากแก้ปัญหาเงินลงทุนก้อนนี้ได้ไม่ดี ต้นทุนทางการเงินก็อาจปรับตัวขึ้นสูงถึง 2% จากอัตราส่วนหนี้สิ้น/ทุนที่สูงขึ้น และการปรับลดอันดับเครดิต

แต่ในที่สุด ปัญหาก็มีทางออกจากนโยบายบริหารจัดการสินทรัพย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด (Asset Monetization) ของบริษัทแม่ปตท. ซึ่งบัณฑิตก็รับนโยบายมาปฏิบัติจนเป็นผลสำเร็จด้วยดีจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา อนุมัติโครงการดังกล่าวนั้น

แนวทางก็คือ จัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ระหว่างไทยออยล์กับแทงค์ เทอร์มินัล ในอัตราส่วน 51:49 เช่าทรัพย์สินระยะยาว (21 ปี) บางส่วนของ TOP (ถังเก็บน้ำมันดิบ ทุ่นผูกเรือกลางทะเล สถานีจ่ายน้ำมันทางรถ และที่ดิน) ในมูลค่า 3.74 หมื่นล้านบาท

จากนั้นก็ให้ไทยออยล์เช่าระยะยาวและเช่าช่วงทรัพย์สินกลับ (Lease &Leaseback) จากบริษัทร่วมทุนใหม่ (ท็อป อินฟรา) ซึ่งจะทำให้ไทยออยล์ มีกระแสเงินสดสุทธิกลับประมาณ 18,230 ล้านบาท

ไทยออยล์ก็ได้เพิ่มเติมสภาพคล่องทางการเงิน อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสุทธิจะลดลงจาก 5.8 เท่ามาอยู่ที่ 4.8 เท่า และยังคงรักษาระเบียบวินัยทางการเงินและอันดับความน่าเชื่อถือทางเครดิต
วิธีการ Asset Monetization ก็คือ เครื่องมือทางการเงินอย่างหนึ่ง หากใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็สามารถจะแก้ปัญหาได้อย่างรอบด้านทั้งสภาพคล่องทางการเงิน การบริหารภาระหนี้สิน โดยไม่ทำลายระเบียบวินัยทางการเงิน

ในประการสำคัญที่สุดก็คือ การผลักดันโครงการ CFP พ้นจากหล่ม  หวังว่าจะได้เห็นบัณฑิต ธรรมประจำจิต ในวัย 54 ปี ได้มีโอกาสโลดแล่นในยุทธจักรพลังงานต่อจากนี้

Back to top button