สังคมข่าวหุ้นนิวส์เวฟ

ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,424.12 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 11.45 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายเฉียด 4.5 หมื่นล้านบาท


ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,424.12 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 11.45 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายเฉียด 4.5 หมื่นล้านบาท

* แรงซื้อสุทธิมาจาก 3 ประสาน โดยฝ่ายบัญชีบริษัทหลักทรัพย์เข้าเก็บมากสุด 2,206 ล้านบาท  ตามด้วยนักลงทุนสถาบัน 1,192 ล้านบาท และต่างชาติ 438 ล้านบาท ส่วนขาเทขายสุทธิรายย่อยสาดกระจายไม่มีรอช้า 3,837 ล้านบาท

* เริ่มด้วยหุ้นแรกวันนี้ขอเลือก THCOM เพราะมีข่าวดีสำคัญคือการส่ง “ดาวเทียมไทยคม 8” ขึ้นสู่วงโคจรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

* แน่นอนในงวดไตรมาส 2 ผลบวกของไทยคม 8 อาจจะยังไม่ฉายภาพสร้างรายได้-กำไรให้ได้เห็นเท่าไหร่

* แต่ในแง่ครึ่งปีหลังจะกลายเป็นขุมกำลังสำคัญที่เข้ามาช่วยเสริมรายได้-กำไรบริษัทแบบท่วมท้น

* ล่าสุด โบรกฯ ดีดประเมินกำไรสุทธิปี 59 ออกมาโตร่วม 2,300-2,400 ล้านบาท ราคาเป้าหมายกำหนดไว้เหนือ 40 บาท อัพไซด์บานเลยแหละ

* ต่อกันด้วยหุ้น JAS เป็นหุ้นที่มีสตอรี่ดราม่ากันอย่างต่อเนื่อง เพราะเล่นมีทั้งข่าวดี-ข่าวลบวิ่งคู่ขนานไปด้วยกัน

* เริ่มจากฝั่งข่าวดี ซึ่งแน่นอนว่า ตั้งแต่พรุ่งนี้ (1 มิ.ย.) เป็นต้นไป จนถึง 10 มิ.ย. จะเข้าสู่ช่วงเวลาซื้อหุ้นคืน 5 บาทต่อหุ้นแล้ว

* เมื่อราคาซื้อหุ้นคืนสูงกว่าในกระดาน (นับคร่าวๆ ก็ร่วมกว่า 30 สตางค์ได้) ย่อมกลายเป็นเซนติเมนท์บวกต่อหุ้นในทันที

* แต่ดันบังเอิญมีปัจจัยลบเข้ามาแทรกจนได้ ซึ่งข่าวร้ายมีอยู่ 2 ด่าน

* เริ่มจากด่านแรกกสทช. เตรียมเคาะบทสรุปค่าเสียหายทิ้งใบอนุญาต 4G ย่านความถี่ 900 MHz แว่วว่า ข้อสรุปที่ชัดเจนออกมาวันพรุ่งนี้เช่นกัน * ด่านสองหลายโบรกฯ ต่างคำนวณมากันแล้วว่า JAS มีโอกาสหลุด SET50 รอบล่าสุด

* สรุปแล้วยังคงเก็งกำไรตามกระแสกันไปได้ เพียงแต่ต้องใช้ความระมัดระวังกันหน่อย แล้วอย่าลืมกำหนด CUT LOSS กันด้วยละ

* ต่อด้วยหุ้น SOLAR ไม่ทราบว่า จะต้องประกาศแก้งบการเงินกันอีกกี่รอบ

* เพราะล่าสุด ประกาศแก้งบปี 59 เป็นขาดทุนสุทธิรวม 60 ล้านบาทซ้ำไปอีก

* รอบก่อนเพิ่งแจ้งแก้ไขงบไตรมาส 1 ไปไม่นาน คราวนี้มาแก้ไขงวดปี 58 อีก

* แม้เมื่อวานจะปิดบวกเพิ่มขึ้นไปกว่า 7% แต่ถ้าดูราคาย้อนหลังจะเห็นได้เลยว่า เหวี่ยงผันผวนแบบสุดโต่ง ไม่อยากเจ็บตัว “เลี่ยงการลงทุน” ไปก่อนชั่วคราว * ข้ามไปที่หุ้น EPG ประกาศงบปี 59 (ปิดมี.ค.) มีกำไรสุทธิรวมกว่า 1,400 ล้านบาท โตขึ้นกว่า 120%

* ถือเป็นกำไรเติบโตที่น่าสนใจไม่เบา อยากให้สังเกตกันอย่างหนึ่งคือตัวรายได้และต้นทุนบริษัท

* โดยรายได้พุ่งกระฉูดร่วม 8,700 ล้านบาท โตขึ้นจากปีก่อนประมาณ 26% ขณะที่ต้นทุนขายอยู่ที่ 5,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียง 14% เท่านั้น

* นั่นสะท้อนให้เห็นว่า EPG มีศักยภาพทั้งสร้างรายได้-กำไรและคุมต้นทุนเป็นอย่างดี

* ล่าสุด โบรกฯ ประเมินงวดปีนี้ EPG ยังมีโอกาสทำกำไรโตต่อเนื่องระดับสองหลัก ราคาเป้าหมายให้ไว้แถว 15 บาท แถมเข้าเก็บช่วงนี้ยังได้ปันผลอีก 12 สตางค์ ถือเป็นอีกหุ้นน่าสนใจไม่เบานะ

* ข้ามไปที่ IFEC รับข่าวดีกันไป ล่าสุดลุ้นงวดไตรมาส 2 พลิกกลับมามีกำไรแล้ว

* แรงหนุนผลักดันให้ IFEC มาจากการบันทึกรายการพิเศษของโรงแรมดาราเทวีหลายร้อยล้านบาท

* แล้วยังบวกกับกำไรตัวธุรกิจพลังงานทดแทนในมือเข้ามาอีก ระยะสั้นจึงมีแนวโน้มวิ่งบวกรับปัจจัยนี้แน่นอน

* อีกหุ้นชอบขอเลือก PTG เจ้าของแบรนด์ปั๊มน้ำมันพีทีนี่แหละ

* ถือเป็นการล้างภาพหุ้นค้าปลีกน้ำมันลงสิ้นเชิง เพราะสามารถสร้างกำไรโตวันโตคืนไม่หยุด

* ฟากผู้บริหารออกปากมั่นใจว่า กำไรงวดปี 59 จะเติบโตขึ้นแน่นอน เพราะปริมาณขายน้ำมันปีนี้เพิ่มกระฉูดร่วม 40% 

* ล่าสุด หุ้นวิ่งไล่มาจนถึงแนวต้าน 18 บาท วันนี้น่าจะเจอขายทำกำไรกันออกมา เนื่องจากรอบ 4 วันทำการวิ่งบวกมาแล้ว 10%

* ดังนั้น ถ้าหุ้นปรับตัวลงมาแรง เตรียมหาจังหวะเข้าสอยได้เลย เพราะทิศทางธุรกิจอยู่ในช่วงพีคเต็มสูบ ส่วนราคาเป้าหมายโบรกฯ ให้ไว้ถึง 21 บาท

* ปิดท้ายด้วยหุ้นร้อนที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย

* โดยตกเป็นของหุ้น DNA และ DNA-W1 นั่นเอง เข้าเกณฑ์ระดับ 1 Cash Balance * เริ่มมีผลตั้งแต่ 31 พ.ค.-20 มิ.ย. ถือเป็นการสั่งคุมเข้มลงลึกไปจนถึงระดับ DNA เลยทีเดียว *

Back to top button