SET บ่ายยืนลบ ไร้ปัจจัยใหม่เข้าหนุนแนะสอย 3 หุ้นโรงไฟฟ้าแกร่งกว่าตลาด

SET บ่ายยืนลบ ยังไม่มีปัจจัยหนุนที่ช่วยผลักดันให้กลับมาเป็นบวกได้ พร้อมให้แนวต้าน 1,500 จุด แนวรับ 1,480-1,470 จุด โบรกฯแนะสอย 3หุ้นโรงไฟฟ้าแกร่งกว่าตลาด นำโดย EGCO, GLOW และ EGCO


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (23 ก.ย.)มีแรงขายนำออกมาในหุ้นขนาดใหญ่ทั้งในกลุ่มแบงก์, พลังงาน และสื่อสาร จึงกดดันต่อภาพรวมการลงทุน ด้านนักวิเคราะห์ฯระบุตลาดหุ้นไทยเช้านี้ดัชนีปรับลดลงหลุด 1,500 จุด จากแรงขายทำกำไรหลังจากที่ดัชนีดีดตัวขึ้นไปมากก่อนหน้านี้ ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและลบ โดยแนวโน้มช่วงบ่ายคาดว่าดัชนีหุ้นไทยยื่นลบ เพราะยังไม่มีปัจจัยหนุนที่ช่วยผลักดันให้กลับมาเป็นบวกได้ พร้อมให้แนวต้าน 1,500 จุด แนวรับ 1,480-1,470 จุด

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าดัชนีปรับตัวลดลงหลุด 1,500 จุด จากแรงขายทำไร ซึ่งวันนี้เป็นวันทำการวันสุดท้ายของสัปดาห์ จึงอาจจะมีการขายทำกำไรออกมาหลังจากที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นมาในช่วงก่อหน้านี้ โดยยังไม่มีปัจจัยอื่นส่งผลกระทบ ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบคละกัน

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายคาดว่าตลาดยังซึมอยู่ต่อเนื่องจากช่วงเช้า ซึ่งยังไม่มีปัจจัยโดดเด่นที่จะช่วยหนุนดัชนีให้สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในขณะนี้ อีกทั้งตลาดหุ้นไทยยังมีความเปราะบางอยู่ค่อนข้างมาก เพราะในช่วงที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีปัจจัยที่หนุนตลาดแต่ยังไม่สามารถช่วยผลักดันตลาดให้เพิ่มขึ้นได้ดีมากนัก

“มองว่าตอนนี้ตลาดหุ้นไทยยังมีความเปราะบางอยู่ เพราะ Factor ที่เป็น Catalyst ก็ไม่ได้มีผลบวกที่โดดเด่นมากนัก จะเห็นได้จากดัชนีที่รีบาวด์ขึ้นมานั้นปรับเพิ่มขึ้นเพียง 2 ใน 3 จากที่ลงไปแรงก่อนหน้านี้ ช่วงนี้ก็เป็นการแนะนำนักลงทุนในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก็ให้ขายทำกำไรออกไปบ้าง” พร้อมให้แนวต้าน 1,500 จุด แนวรับ 1,480-1,470 จุด

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (23 ก.ย.) ว่า SET ภาคเช้ามีแรงขายทำกำไรกดดัน SET ปรับลดลง -0.96% ปิดที่ 1,491.54 จุด ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ซี่งเป็นการลดความร้อนแรงของ SET หลังปรับสูงขึ้นแรงเกือบ 100 จุดภายในไม่ถึง 2 สัปดาห์ แม้ SET ยังมีโอกาสปรับสูงขึ้นไปที่แนวต้าน 1,520 จุด อย่างไรก็ตามด้วย Valuation ในเชิง PE ที่สูง 16.3x ทำให้เราแนะนำแค่ Trading เท่านั้น และควรกำหนด Trailing Stop หรือจุด “จำกัดขาดทุน” ที่ 1,486 จุด

ในขณะเดียวกันกลุ่มหุ้น Defensive อย่างโรงไฟฟ้า มีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาด แม้ SET ดู “ผันผวน” มากขึ้น แต่หุ้นกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้า มีแน้มแข็งแกร่งกว่าตลาดโดยรวม อย่าง EGCO และ GLOW โดย EGCO (แนวต้าน 195.5 ถ้า Breakout ได้จะมีเป้าหมายถัดไปที่ 204-206 บาท) มีจุดเด่นที่กำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นหนุนการเติบโตกำไรต่อเนื่อง 15-8% ในปี 2559-2560 ขณะที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล 3.3-3.6% ขณะที่ GLOW (แนวต้าน 82.50 บาท) แม้คาดการณ์ผลการดำเนินงานไม่มีการเติบโตเลยในช่วง 2 ปีข้างหน้า แต่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง 5.3-5.4%

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

CPF   มูลค่าการซื้อขาย 1,516.46 ล้านบาท ปิดที่ 32.25 บาท  ลดลง 0.75 บาท

SCC   มูลค่าการซื้อขาย 1,162.40 ล้านบาท ปิดที่ 520.00 บาท ลดลง 6.00 บาท

SCB   มูลค่าการซื้อขาย   940.18 ล้านบาท ปิดที่ 151.50 บาท ลดลง 2.50 บาท

PTT   มูลค่าการซื้อขาย   895.26 ล้านบาท ปิดที่ 334.00 บาท ลดลง 3.00 บาท

KTB   มูลค่าการซื้อขาย   849.62 ล้านบาท ปิดที่  18.00 บาท ลดลง 0.40 บาท

               

 

Back to top button