CHO กลับมาประสาเสี่ยจิง

แล้วก็ได้ฤกษ์เซ็นสัญญาจริงจังเสียที ทำลายอาถรรพ์เมื่อ 2 ปีก่อนลงไปได้หมดจด สำหรับความสัมพันธ์ทางธุรกรรมระหว่างรับวิสาหกิจอย่าง องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)  กับ บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO


แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

 

แล้วก็ได้ฤกษ์เซ็นสัญญาจริงจังเสียที ทำลายอาถรรพ์เมื่อ 2 ปีก่อนลงไปได้หมดจด สำหรับความสัมพันธ์ทางธุรกรรมระหว่างรับวิสาหกิจอย่าง องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)  กับ บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO

เพียงแต่คราวนี้ ดังที่รั้น ไม่ใช่รถยนต์ประจำทางเอ็นจีวี แต่เป็น โครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ e-Ticket ระยะเวลา 5 ปี พร้อมติดตั้งอุปกรณ์บนรถโดยสารประจำทางในเครือข่ายของ ขสมก. จำนวน  2,600 คัน วงเงิน 1,665 ล้านบาท

งานนี้ นายสมศักดิ์ ห่มม่วง  รองปลัดกระทรวงคมนาคม  ในฐานะรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ ขสมก. เปิดเผยว่า  ในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ เวลา 14.00 น. ขสมก.จะลงนามในสัญญาดังกล่าวกับ กับ CHO ที่กระทรวงคมนาคม ซึ่งชนะการประมูลมาได้ ในราคาต่ำกว่าราคากลาง 121 ล้านบาท

ครั้งนี้ ย้ำว่า ไม่มีการเบี้ยวกันซ้ำอีกแน่นอน…ถ้าเป็นฟุตบอล ก็เรียกว่า…รอชูเสื้อถ่ายรูปเท่านั้น

งาน บิ๊กอ้วน หรือ นายนิติธร ดีอำไพ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-การเงิน ของ CHO ได้เคยระบุว่า  หลังการลงนามในสัญญาจ้างแล้ว CHO จะเริ่มดำเนินการติดตั้งระบบ e-Ticket ภายในรถเมล์ จำนวน 100 คันแรกภายใน 120 วัน

ช่วงที่เหลือของปี 2560 จะต้องดำเนินการให้ครบจำนวน 800 คัน

หลังจากนั้น จะทยอยติดตั้งได้ครบทั้งหมด จำนวน 2,600 คัน ภายในระยะเวลา 1 ปีตามที่ระบุไว้ในสัญญา แล้วก็ดูแลซ่อมบำรุงกันไปจนครบ 5 ปี ซึ่งจะทำให้ระบบตั๋วรถ  ขสมก.ทุกคัน เป็นระบบดิจิตอล 4.0 ทั้งหมดทั่ว กทม.และชานเมือง

ที่ต้องย้ำเรื่องการติดตั้ง เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับระบบการบันทึกบัญชีบริษัท ที่ต้องส่งงาน และบันทึกรายได้แป็นสำคัญ เพราะ CHO จะสามารถเริ่มรับรู้รายได้จากการติดตั้งระบบดังกล่าว ภายในช่วงไตรมาส 4/2560 (ต.ค.-ธ.ค. 60)และทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องภายใน 5 ปีตามสัญญา

เรียบร้อยโรงเรียนเสี่ยจิง….1 เรื่อง แต่ยังไม่หมด เพราะยังมีเรื่องใหม่ (ในสาระเดิม) โผล่มาให้ลุ้นกันอีก

จะมีอะไรล่ะ หากไม่ใช่ข่าวที่ว่า มีความคืบหน้าโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษารถโดยสาร จำนวน 489 คันรอบที่สาม ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-อ็อคชั่น) วงเงิน 4,021.71 ล้านบาท  ของขสมก.ซึ่งกำหนดยื่นเอกสารในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ด้วย

งานนี้ CHO ก็ไม่ขอพลาดกับเขา เหมือนครั้งก่อน ..เรียกว่า มีลุ้นด้วย…ช่วยกันเฮ

การประมูลรถโดยสาร เอ็นจีวี จำนวน 489 คันรอบนี้  มีเอกชนสนใจซื้อซองประกวดราคาทั้งหมด 12 ราย ต่ยังมรู้ว่าวันยื่นเอกสารประมูล จะเหลือจริงๆ กี่รายกันแน่

แม้ว่าการประมูลรถใช้เอ็นจีวีนี้ จะต้องผ่านอีกหลายขั้นตอน กว่าจะสรุปผลการประมูลวันที่ 27 มิถุนายน แต่ CHO ก็ยังเหมือนเดิมคือมั่นใจว่าทำได้ตามเงื่อนไขทุกอย่าง …หากไม่มีนอกมีใน

หลังจากสรุปผลการประมูลเดือนนี้จบลง บอร์ด ขสมก.  ก็จะนำเข้าพิจารณาในวันที่ 28 มิถุนายน เพื่อให้ลงนามสัญญาเดือน กรกฎาคม 2560 และส่งมอบรถโดยสารภายในวัน 90 วัน หรือเดือน ตุลาคม นี้

งานนี้ คนชื่อ “เสี่ยจิง” นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHO มุ่งมั่นเต็มตัวเหมือนเคย เข้าสูตร “รักจริงหวังแต่ง” กับ ขสมก. ดังที่เคยเป็นมานานกว่า 4 ปีแล้ว

แม้จะยังไม่รู้ว่ามีลุ้นหรือไม่กับการประมูลรอบ 3 นี้จะออกหัวหรือก้อย  แต่การรู้ว่าราคาชนะประมูลรอบ 2 ที่เครือบริษัท เบสท์รินฯ เป็นผู้ชนะ ด้วยวงเงินรวม 3,387 ล้านบาท ก็เป็นโจทย์ที่ง่ายกว่าเดิม แม้จะหินกว่าเดิม..ก็ตาม

ที่ลุ้นไม่แพ้ผู้บริหารของCHO ย่อมหนีไม่พ้น บรรดาขาประจำ ซึ่งขณะนี้ ทำตัวเป็น “ชาวดอย” หน้าสลอน…เราะติดหุ้น CHO ในราคาสูงปรี๊ด พากันลุกขึ้นมามีลุ้นกับเขาบ้าง…..ปีนี้จะกลับมามีกำไรสุทธิแน่นอน

นอกเหนือจากแผนธุรกิจปกติที่รับงานต่อพ่วงรถหรือเรือเฉพาะทางไปทั่วโลกที่มีลักษณะ “เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน” ไปเรื่อยๆ แล้ว รวมทั้งแผนงานเดินหน้าลดต้นทุนต่อเนื่อง  โดยคงเป้ารายได้ปกติปีนี้จะเติบโตราว 5-10% จาก 1,079 ล้านบาทในปีก่อน รวมทั้งงานในมือรวมกัน 697 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดในปีนี้ อีกทั้งงานที่รอเซ็นสัญญาอีก 3 โครงการ มูลค่ารวม 1,955 ล้านบาท และเจรจาขายที่ดิน 32 ไร่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ เป็นแผนเสริม…. ก็จะมีโบนัสก้อนใหญ่เข้ามาเริ่มจาก e-Ticket เข้ามาเสริม

หากได้คว้างานประมูลรถเอ็นจีวี.เข้าอีก..รับรองงานนี้ ราคาหุ้น CHO ที่เคยวิ่งแถว 5 บาทเมื่อหลายปีก่อน…จนคนเกือบลืมไปแล้ว…น่าจะถือว่าจะต่ำเกินไป จากทั้งรายได้และกำไรพิเศษเข้ามาเป็นกอบเป็นกำ ภายในปีนี้

หากบรรลุเป้าหมายครบทุกข้อ CHO ก็สามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ราว 86 ล้านบาทได้เกือบหมดในปีนี้ เพื่อเตรียมกลับมาจ่ายเงินปันผล หลังจากหยุดจ่ายไปเมื่องวดบัญชีปีก่อน

จะได้หมดเวลาทุกข์โศก หมดโรคหมดภัยเสียที เดินหน้าหากำไรกนลูกเดียว…

นี่ยังไม่นับหางเลขอีกรายการจากโครงการรถเมล์ไฟฟ้า 200 คัน วงเงิน 2,702.936 ล้านบาท ที่เพิ่งจะพิจารณา TOR กันอยู่ …อีกต่างหาก

เอาแค่นี้ ก็ไม่เห็นหน้าเห็นหลังกันแล้ว

อิ อิ อิ

 

Back to top button