2 หุ้นแดงเลือดสาด! วิตกผลประกอบการ Q2 ไม่สดใส

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) หรือ SCI ณ เวลา 10.55 น. ราคาอยู่ที่ 6.70 บาท ลบ 0.15 บาท หรือ 2.19% สูงสุดที่ 6.85 บาท ต่ำสุดที่ 6.55 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 10.02 ล้านบาท

โดยราคาหุ้น SCI ปรับตัวลงกว่า 48% ทำจุดต่ำสุดในรอบ 6 เดือน โดยนับตั้งแต่ราคาหุ้นยืนที่ระดับ 12.70 เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560 และได้อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องจนมาอยู่ที่ระดับล่าสุด คาดนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังกังวลเรื่องผลประกอบการไตรมาส 2/60 อาจจะออกมาไม่สดใสนัก เนื่องจากแผนธุรกิจและแผนการลงทุนโครงการในอนาคตยังไม่ชัดเจน

ด้านบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (28 มิ.ย.) แนะนำ “ขาย” ราคาเป้าหมาย 8 บาท/หุ้น โดยฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรสุทธิของ SCI ในไตรมาส 2/60 จะอยู่ที่ 34 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 4 ล้านบาทในไตรมาส 1/60 และ เพิ่มขึ้นถึง 438% จากช่วงเดียวกันของไตรมาสก่อน แต่ก็ยังต่ำกว่าประมาณการเดิมของฝ่ายวิจัย

เนื่องจากรัฐบาลลาวอยู่ระหว่างการทบทวนโครงการสายส่งไฟฟ้า 500kV สองเฟสว่าจะขยายขนาดสายส่งหรือไม่ ทำให้งาน EPC ของ SCI ในโครงการแรกต้องหยุดชะงักลงชั่วคราว และการทบทวนของรัฐบาลลาวก็ทำให้ฝ่ายวิจัยปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2560-2561 ลง 59%-20% ตามลำดับ

นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยยังปรับลดคำแนะนำจากถือเป็นขาย จนกว่ารัฐบาลลาวจะตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับโครงการสายส่งไฟฟ้า 500kV  ซึ่งหมายถึงการที่จะเริ่มงานก่อสร้างได้อีกครั้ง

 

ส่วนราคาหุ้นบริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT ณ เวลา 10.55 น. ราคาอยู่ที่ 5.95 บาท ลบ 0.15 บาท หรือ 2.46% สูงสุดที่ 6.00 บาท ต่ำสุดที่ 5.85 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 9.14 ล้านบาทโดยราคาหุ้น ALT ปรับตัวลงต่ำสุดตั้งแต่เข้าตลาด เมื่อวันที่ 4 ก.ค.59

โดยราคาหุ้น ปรับตัวลงกว่า 42% ทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 6 เดือน โดยนับตั้งแต่ราคาหุ้นยืนที่ระดับ 10.30 เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2560 และได้อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องจนมาอยู่ที่ระดับล่าสุด คาดนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังโบรกฯได้หั่นเป้าราคาและแนะนำขาย เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 1/60 ขาดทุนกว่า 50% จึงส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลว่าในไตรมาส 2/60 บริษัทอาจจะขาดทุนเพิ่ม เนื่องจากยังไม่มีแผนงานที่ชัดเจนและธุรกิจมีการแข่งขันสูง

ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (15 พ.ค.) แนะนำ “ขาย” ราคาเป้าหมาย 6 บาท/หุ้น โดย ALT ประกาศกำไรปกติไตรมาส 1/60 ออกมาที่ 31 ลบ. ลดลง 70.2% จากไตรมาสก่อน , ลดลง 52.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งน่าผิดหวังอย่างมากจากรายได้ที่หดตัวถึง 60.2% จากไตรมาสก่อน และ 52.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ธุรกิจดั้งเดิมทั้งการขายสินค้าและให้บริการติดตั้งสถานีฐานเริ่มหดตัวอย่างน่าตกใจ ส่วนธุรกิจ Recurring ยังมีพัฒนาการค่อนข้างช้าและไม่สามารถเติบโตเข้ามาทดแทนได้ทัน