บลจ.กสิกรไทยชูผลิตภัณฑ์หลากสไตล์พร้อมโปรจัดเต็มในMoney Expo 2015

นายพงศ์พิเชษฐ์ นานานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจะร่วมออกบูธส่งเสริมการขายร่วมกับธนาคารกสิกรไทย ในงานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 15 (Money Expo 2015) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 7-10 พฤษภาคม 2558 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี โดยมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ลงทุน พร้อมทั้งจัดเตรียมบริการให้คำแนะนำด้านการลงทุนอย่างมืออาชีพ ร่วมด้วยโปรโมชั่นสุดคุ้มมากมายภายในงาน โดยผู้ลงทุนที่ซื้อกองทุนภายในงานจะได้รับหน่วยลงทุน K-MONEY สูงสุดถึง 5,900 บาทต่อท่าน


นายพงศ์พิเชษฐ์ นานานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจะร่วมออกบูธส่งเสริมการขายร่วมกับธนาคารกสิกรไทย ในงานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 15 (Money Expo 2015) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 7-10 พฤษภาคม 2558 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี โดยมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ลงทุน พร้อมทั้งจัดเตรียมบริการให้คำแนะนำด้านการลงทุนอย่างมืออาชีพ ร่วมด้วยโปรโมชั่นสุดคุ้มมากมายภายในงาน โดยผู้ลงทุนที่ซื้อกองทุนภายในงานจะได้รับหน่วยลงทุน K-MONEY สูงสุดถึง 5,900 บาทต่อท่าน

ปัจจุบัน บลจ.กสิกรไทย มีผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการลงทุนอย่างรอบด้าน ทั้งในด้านประเภทสินทรัพย์ที่มีให้เลือกทั้งหุ้น ตราสารหนี้ และตราสารอื่นๆ อาทิ ทองคำ และน้ำมัน ในด้านการวางแผนการเงินก็มีผลิตภัณฑ์กองทุนที่เน้นเป้าหมายเพื่อการจัดสรรเงินออมทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และการวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณอายุ ตัวอย่างเช่น กองทุน K- Lifestyle และกองทุน LTF/RMF ด้านความเสี่ยงกองทุนที่มีให้เลือกหลากหลายระดับความเสี่ยง รวมถึงด้านการกระจายลงทุนในหลากหลายภูมิภาคทั่วโลก และกองทุนที่เน้นลงทุนในรายอุตสาหกรรม (Sector Fund) ด้วยเหตุนี้ จึงเลือกผลิตภัณฑ์กองทุนในแต่ละประเภทมาเสนอพร้อมกับมีโปรโมชั่นให้กับลูกค้าที่ซื้อหน่วยลงทุนในงาน

สำหรับกองทุนในกลุ่มกองทุนเปิดเค ไลฟ์สไตล์ (K Lifestyle Fund) ซึ่งประกอบด้วยกองทุน K-2500, K-2510, K-2520 และ K-2530 จะมีจุดเด่นคือการเป็นกองทุนผสมที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ในสัดส่วนที่แตกต่างกัน และมีการกระจายความเสี่ยงให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้ลงทุนในทุกช่วงวัย จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวโดยให้ บลจ.กสิกรไทย จัดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นให้เหมาะสมกับช่วงอายุ

สำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ค่อนข้างสูง บลจ.กสิกรไทยยังขอแนะนำกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นไทย อาทิ กองทุนเปิดเค หุ้นทุน (K-EQUITY) ซึ่งมีจุดเด่นที่การเน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีและกระจายการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม, กองทุนเปิดเค สตาร์หุ้นทุนคืนกำไร (K-STAR) ซึ่งเน้นลงทุนระยะสั้นถึงปานกลางในหุ้นพื้นฐานดีโดยมีการขายคืนอัตโนมัติเมื่อมีกำไรถึงจุดที่กำหนด และกองทุนเปิดเค สตราทีจิค เทรดดิ้ง หุ้นทุน (K-STEQ) ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี โดยกองทุนจะเน้นการซื้อขายทำกำไรตามจังหวะเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังคงมีมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยในเชิงบวก และตั้งเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปลายปี 2558 ที่ระดับ 1,700 โดยจะได้รับปัจจัยบวกมาจากการเร่งดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และแผนการเร่งใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐที่มีชัดเจนมากขึ้นในครึ่งปีหลัง รวมถึงการดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งล่าสุดมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% เหลือที่ 1.50% ทั้งนี้จะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้น ทำให้นักลงทุนหันเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นและผลักดันให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นได้

นอกจากนี้ผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงการลงทุนไปยังต่างประเทศ บริษัทยังเสนอทางเลือกเพิ่มเติมกับกองทุนรวมต่างประเทศที่แนะนำ 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเค เอเชียน สมอลเลอร์ หุ้นทุน(K-ASIA) ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กในทวีปเอเชีย โดยมีผลดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปีที่ 19.44% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานที่ 16.00%, กองทุนเปิดเค ญี่ปุ่น หุ้นทุน (K-JP) ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นญี่ปุ่น โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมา มีการจ่ายปันผลไปแล้วรวม 0.40 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดเค โกลบอล แอลโลเคชั่น (K-GA) ซึ่งมีนโยบายกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลกทั้งตราสารหนี้และหุ้น จึงช่วยลดความผันผวนจากการลงทุนและเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ระดับปานกลาง และกองทุนมีผลดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปีที่ 7.15% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานที่ 6.92%

บริษัทยังได้จัดโปรโมชั่นในส่วนกองทุน LTF/RMF สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลดหย่อนภาษี และต้องการทยอยเข้าลงทุนตั้งแต่ช่วงต้นปี โดยเฉพาะกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้น ซึ่งบลจ.กสิกรไทยมองว่าในระยะสั้นตลาดหุ้นยังคงมีความผันผวนอยู่บ้าง ผู้ลงทุนอาจอาศัยจังหวะที่ดัชนีปรับตัวย่อลงเข้าลงทุนเพิ่มเติมเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนจากการปรับตัวขึ้นในระยะข้างหน้า หรือสามารถนำเงินก้อนที่ได้รับคืนภาษีจากปี 2557 และยังไม่มีแผนการใช้เงินดังกล่าวในช่วงนี้ สามารถนำมาลงทุนต่อกับกองทุน LTF/RMF เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องได้ ซึ่งกองทุน LTF ของบลจ.กสิกรไทยที่แนะนำและมีผลดำเนินงานย้อนหลังโดดเด่น ได้แก่ กองทุน กองทุนเปิดเค 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผล (K20SLTF) ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นเด่นที่มีศักยภาพสูงไม่เกิน 20 บริษัท และมีผลดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปีที่ 13.10% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานที่ 7.80%

นอกจากนี้ บลจ. กสิกรไทย ยังเตรียมเสนอขายกองทุนใหม่ในงานดังกล่าว คือ กองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นธุรกิจพลังงาน (K-ENERGY) โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค เพื่อตอบสนองผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูงและมีเวลาติดตามสถานการณ์การลงทุนได้ด้วยตนเองเพื่อหาโอกาสจับจังหวะทำกำไรในระยะสั้น โดยมีค่าธรรมเนียมการซื้อและการขายคืนหน่วยลงทุนที่ค่อนข้างต่ำ รวมถึงผู้ลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนในระยะยาวจากแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานในอนาคต ผู้ที่สนใจสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท

นายพงศ์พิเชษฐ์กล่าวถึงรายละเอียดของโปรโมชั่นดังกล่าวต่อไปว่า “ผู้ลงทุนที่มียอดเงินลงทุนในกองทุน K-ENERGY กองทุน K Lifestyle (K-2500, K-2510, K-2520, และ K-2530) ครบทุกๆ 100,000 บาท จะได้รับหน่วยลงทุน K-MONEY เป็นจำนวน 150 บาท (สูงสุด 1,950 บาทต่อท่าน) และสำหรับผู้ที่มียอดเงินลงทุนในกองทุน K-EQUITY, K-STAR, K-STEQ, K-ASIA, K-JP และ K-GA ครบทุกๆ 50,000 บาท จะได้รับหน่วยลงทุน K-MONEY จำนวน 100 บาท (สูงสุด 2,000 บาทต่อท่าน) สำหรับด้านโปรโมชั่นของกองทุน LTF และ RMF ผู้ลงทุนที่มียอดเงินลงทุนในกองทุน LTF/RMF ครบทุกๆ 100,000 บาท จะได้รับหน่วยลงทุน K-MONEY จำนวน 150 บาท (สูงสุด 1,950 บาทต่อท่าน) ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจลงทุน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Call Center 0 2673 3888 หรือติดต่อบูธ บลจ. กสิกรไทย ในงานมหกรรมการเงินครั้งที่ 15 (Money Expo 2015) ระหว่างวันที่ 7-10 พฤษภาคม 2558 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค”

 

Back to top button