ITEL แย้มรายได้ปีนี้โตทะลุ 50% เล็งลงทุนธุรกิจให้เช่าโครงข่ายสื่อสารในมาเลเซีย

ITEL แย้มรายได้ปีนี้โตทะลุ 50% เล็งลงทุนธุรกิจให้เช่าโครงข่ายสื่อสารในมาเลเซีย มูลค่าราว 1 พันลบ. คาดได้ข้อสรุปภายในปีนี้


นายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้จะทำได้มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะเติบโต 40-50% จากปีก่อนที่มีรายได้ 809.29 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้รายได้จะเติบโตเร็วขึ้น จากการให้บริการวงจรเช่าความเร็วสูงแก่ลูกค้าใหม่ คือ บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTLS เพิ่มขึ้นไตรมาสละ 400 สาขา ซึ่งเริ่มงานมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/60 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันยังมีการรับรู้รายได้จากบริษัทอื่น ๆ อย่าง บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD , บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPCO , บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP , สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล , การประปา และกรมที่ดิน

ปัจจุบัน บริษัทมียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) 1,500 ล้านบาท แบ่งเป็นงานดาต้าเซ็นเตอร์ 1,200 ล้านบาท รับรู้รายได้ปีนี้ 30-40% และงานติดตั้งโครงข่าย 300 ล้านบาท รับรู้รายได้ปีนี้ 50-60% ประกอบกับเตรียมเซ็นสัญญาให้เช่าโครงข่ายเพื่อ Backup โครงข่ายสายเคเบิลใต้น้ำที่เชื่อมจากประเทศสิงคโปร์ไปยังเมียนมา มูลค่า 600 ล้านบาท ในเดือน ก.ย. นี้ ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของบริษัทอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ 3,920 หมู่บ้าน ซึ่งบริษัทได้รับงานมูลค่า 1.87 พันล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าอัตรากำไรสุทธิปีนี้จะปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ระดับ 8.31% โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัททำได้ระดับ 10.98% และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 31-33% จากปีก่อนที่ 28% เป็นการเติบโตจากฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และบริษัทควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น

นายณัฐนัย กล่าวอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร 2-3 รายเข้าลงทุนในธุรกิจให้เช่าโครงข่ายสื่อสารในประเทศมาเลเซีย โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่ามูลค่าการลงทุนจะอยู่ที่ราว 1,000 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 60 และในอนาคตมองว่าธุรกิจ Data Service ของบริษัทมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความครอบคลุมของโครงข่ายที่มีถึง 75 จังหวัด ทำให้โครงข่ายของบริษัทมีเสถียรภาพมากขึ้น สร้างความพึงพอใจและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ประกอบกับการที่บริษัทสามารถสร้างความเชื่อถือกับลูกค้าได้ดีทำให้มีความได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้น ส่งผลให้ทิศทางรายได้จะเติบโตตามการใช้งานของลูกค้าเช่าวงจร โดยบริษัทจะเน้นกลุ่มเป้ามหมายที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมและบริษัทเอกชนทั่วไป โดยปัจจุบันบริษัทได้เพิ่มทีมงานขายรองรับโอกาสทางการค้าที่สูงขึ้น และรองรับการใช้งานจากประเทศใกล้เคียงอีกด้วย

Back to top button