BCPG ปิดพุ่ง 4.35% ทำนิวไฮตั้งแต่เข้าตลาดฯ โบรกฯอัพเป้ากำไรปีนี้โตแตะ 2.2 พันลบ.

BCPG ปิดตลาดพุ่ง 4.35% ทำนิวไฮตั้งแต่เข้าตลาดฯ โบรกฯอัพเป้ากำไรปีนี้โตแตะ 2.2 พันลบ. โดยราคาปิดตลาด อยู่ที่ 16.80 บาท บวก 0.70 บาท หรือ 4.35% สูงสุดที่ 16.80 บาท ต่ำสุดที่ 16.10 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 846.75 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG ปิดตลาดวันนี้ (20 ก.ย.) ราคาอยู่ที่ 16.80 บาท บวก 0.70 บาท หรือ 4.35% สูงสุดที่ 16.80 บาท ต่ำสุดที่ 16.10 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 846.75 ล้านบาท โดยราคาหุ้นปิดสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดเมื่อวันที่ 28 ก.ย.2559

ด้านบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2560-2561 ขึ้น 17.6-27.0% หลังรวมประมาณการโรงไฟฟ้าพลังลมและพลังงานความร้อนใต้พิภพเข้าไว้ในประมาณการ ราคาเป้าหมายปี 2561 เท่ากับ 15.7 บาท (จาก 13.9 บาท) จากการปรับสัดส่วนทุนเพิ่มขึ้นเป็น 40% จาก 30% และรวมทุกโครงการในประเทศญี่ปุ่นในประมาณการ (Best Case) ราคาหุ้นปรับตัวตอบสนองการซื้อกิจการไปแล้วในระดับหนึ่ง

ทั้งนี้ ได้ทำการรวมส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้พลังลม Nabas Wind Farm และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ 3 โครงการ ได้แก่ Wayang Windu, Salak และ Darajat ไว้ในประมาณการ โดยฝ่ายวิจัยประเมินส่วนแบ่งกำไรจากโครงการดังกล่าว 327 และ 541 ล้านบาท ในปี 2560 และ 2561

ดังนั้นจึงปรับประมาณการกำไรสุทธิขึ้น 17.6-27.0% เป็น 2,180 ล้านบาท และ 2,544 ล้านบาท ในปี 2560-2561 ตามลำดับ ส่งผลให้ผลประกอบการปี 2560 และ 2561 คาดเติบโต 41.4% จากปีก่อน และ 17.7% จากปีก่อน ตามลำดับ

ทั้งนี้ โครงการ Nabas Wind Farm เป็นโรงไฟฟ้าพลังลมกำลังการผลิต 36 MW ตั้งอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ BCPG ถือสัดส่วน 40% ได้รับ FiT 7.4 เปโซ/kWh (5.4 บาท) สัญญา 20 ปี เปิดดำเนินงานวันที่ 10 มิ.ย. 2558 อยู่ระหว่างการพัฒนาและขออนุญาตโครงการในเฟสที่ 2 ขนาด 14 MW เราคาดส่วนแบ่งกำไรประมาณ 90 ล้านบาทต่อปี

Back to top button