หุ้นเด่นกลุ่มประกัน – โรงพยาบาล

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2560 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร มีมติอนุมัติให้นำเบี้ยประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท รวมกับวงเงินประกันชีวิตไม่เกิน 1 แสนบาท เริ่มใช้ทันทีปีภาษีนี้ สำหรับเบี้ยประกันสุขภาพที่จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐในการดูแลประชาชนในระยะยาว


เส้นทางนักลงทุน

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2560 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร มีมติอนุมัติให้นำเบี้ยประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท รวมกับวงเงินประกันชีวิตไม่เกิน 1 แสนบาท เริ่มใช้ทันทีปีภาษีนี้ สำหรับเบี้ยประกันสุขภาพที่จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐในการดูแลประชาชนในระยะยาว

ทั้งนี้ เหตุที่ให้ลดหย่อนรวมกับวงเงินประกันชีวิตเดิม กระทรวงการคลังแจ้งว่าผู้มีรายได้ปานกลางส่วนใหญ่ ยังใช้สิทธิลดหย่อนไม่ถึง 1 แสนบาท

งานนี้ จะทำให้ผู้ซื้อประกันชีวิตที่ยังไม่เต็มวงเงิน 1 แสนบาท สามารถซื้อประกันสุขภาพได้เพิ่มเติม เพื่อให้เต็มวงเงิน เพื่อการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2560

มาตรการดังกล่าวจะเป็นผลดีต่อกลุ่มประกันชีวิต โดยนักวิเคราะห์ยกให้ดาวเด่นของกลุ่มเป็นบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLAซึ่งทำธุรกิจประกันชีวิต 2 ประเภทหลัก คือ การประกันชีวิตสามัญและประกันชีวิตกลุ่ม โดยมีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และบริษัท นิปปอนไลฟ์ อินชัวรันส์ ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และพันธมิตรทางธุรกิจ

ที่สำคัญ ราคาหุ้นยังมี Upside ให้นักลงทุนเข้าไปเก็งกำไรพอสมควร เนื่องด้วยราคาเป้าหมายที่โบรกฯคำนวณไว้ 50 บาท เมื่อมาพิจารณากับราคาหุ้นล่าสุดบนกระดานปิดที่ระดับ 46 บาท  ซึ่งราคาหุ้น BLA จะยังคงมี Upside เหลือให้เล่น 4 บาท หรือ 8.70% ถือว่าราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ด้วยปัจจัยที่เป็นบวก…

รองลงมายกให้ บริษัท ไทยรีประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ THREL ซึ่งประกอบธุรกิจประกันภัยต่อด้านการประกันชีวิตทุกประเภท โดยเบี้ยประกันภัยรับส่วนหนึ่งจะถูกกันไว้เป็นเงินสำรองประกันชีวิต และดำเนินการบริหารเงินสำรองประกันชีวิตส่วนนี้โดยนำไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ครอบคลุมภาระที่จะเกิดขึ้น

ส่วนทางด้านราคาหุ้นถือว่าเริ่มมีอาการขยับขึ้นเล็กน้อย โดยราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ 9.35 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 2.75% มูลค่าการซื้อขาย 42.36 ล้านบาท นับว่าเป็นสัญญาณที่ดี ราคาหุ้นแสดงปฏิกิริยาตอบรับข่าว… ซึ่งโอกาสที่ราคาหุ้นจะไปทดสอบราคาเป้าหมายที่ทางโบรกฯ บล.บัวหลวงได้ให้ไว้ที่ระดับ 10.70 บาท และเมื่อพิจารณากับราคาหุ้นจะพบว่ายังมี Upside ให้เล่น 1.35 บาท หรือ 14.44%

นอกจากกลุ่มประกันชีวิตจะได้รับประโยชน์จากการนำเบี้ยประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีแล้วทางกลุ่มโรงพยาบาลก็รับในทางอ้อม เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มประกันสุขภาพเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มผู้ป่วยเงินสดที่ให้ Margin สูง และเป็นกลุ่มเป้าหมายที่โรงพยาบาลต้องการเพิ่มสัดส่วนรายได้อยู่แล้ว และเชื่อว่าผู้ที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวจะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางเป็นหลัก

แม้ว่ามาตรการดังกล่าวจะมีผลย้อนหลังสำหรับเบี้ยประกันที่จ่ายตั้งแต่ต้นปี 2560 แต่กลุ่มโรงพยาบาลจะได้ประโยชน์เพียงเล็กน้อยจากการรักษาพยาบาลในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งผ่านช่วงไตรมาส 3 ที่เป็น High Season มาแล้ว แต่ในปี 2561 เป็นต้นไป จะได้ประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวมากขึ้น

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มรายได้ผู้ป่วยเงินสดของ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH, บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG, บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH, และ บริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH เนื่องด้วยโรงพยาบาลดังกล่าวเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงล่างอยู่แล้ว

ในขณะที่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS และบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH ซึ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้ออยู่แล้ว น่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้ไม่มากนัก

นอกจากนี้ ในส่วนของนักวิเคราะห์ยังคงให้คำแนะนำซื้อกับบรรดาหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่กล่าวไว้ว่าจะได้รับผลประโยชน์ พร้อมกับให้ราคาเป้าหมายดังเช่น…หุ้น BCH ทางบล.เคทีบี แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 18.50 บาท, CHG ทาง บล.ฟิลลิป แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 2.80 บาท

ส่วน RJH ทาง บล.เคทีบี แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 33 บาท, LPH ทาง บล.ทิสโก้ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 11.40 บาท, BDMS ทาง บล.เอเซีย พลัส แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 24 บาท และ BH ทาง บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 230 บาท

หุ้นดังกล่าวเป็นการคัดสรรมาจากบทวิเคราะห์…..ว่าหุ้นเหล่านี้จะมีโอกาสได้รับประโยชน์จากครม.เห็นชอบเบี้ยประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้ 1.5 หมื่นล้านบาท

ที่สำคัญหัวใจหลักราคายังมีแก๊ปเหลือให้วิ่งเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายนั่นเอง!!

Back to top button