“แอ็พพลาย ดีบี”เตรียมขายหุ้น IPO 180 ล้านหุ้น เล็งเข้าตลาดฯ mai ปีนี้

"แอ็พพลาย ดีบี" หรือ ADB ผู้นำผลิตภัณฑ์กาวและยาแนวและเม็ดพลาสติกคอมปาวด์ เตรียมขาย IPO 180 ล้านหุ้น เพื่อระดมทุนมารองรับการขยายงานในอนาคต พร้อมเล็งเข้า mai ปีนี้ โดยมี บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย


นายหวัง วนาไพรสณฑ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ็พพลาย ดีบี จำกัด (มหาชน) หรือ ADB ผู้นำผลิตภัณฑ์กาวและยาแนวและเม็ดพลาสติกคอมปาวด์ เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 180 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท

โดยคาดว่าจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)  ภายในปีนี้ หวังนำเงินระดมทุนมารองรับการขยายงานในอนาคต และบริษัทเตรียมนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ให้กับนักลงทุนรายย่อยในช่วงบ่ายของวันที่ 11 ต.ค.นี้ ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ บริษัทได้วางยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนธุรกิจ โดยจะมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์กาวและยาแนวซึ่งเป็นสินค้าที่มีอัตรากำไรที่ดีและแนวโน้มการขยายตัวที่ดีจากปริมาณความต้องการใช้สินค้าที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมองโอกาสการพัฒนาผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งขันและผลักดันการเติบโตที่มั่นคง รวมถึงเร่งรุกขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น

ปัจจุบัน บริษัทมีผลิตภัณฑ์เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์กาวและผลิตภัณฑ์ยาแนว (Adhesive and Sealant) ซึ่งประกอบด้วย 1.ผลิตภัณฑ์กาวชนิดต่าง ๆ เพื่อใช้ยึดติดวัสดุ อาทิ กาวยาง กาวกร๊าฟท์หรือกาวขาว กาวซูเปอร์กลูหรือกาวพลังช้าง กาวแทนตะปู ฯลฯ และ 2.ผลิตภัณฑ์ยาแนว ซึ่งแบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์อะคริลิกยาแนวสำหรับอุดรอยต่อที่มีความยืดหยุ่นน้อยและคงทนต่อสภาพแวดล้อมต่ำ และผลิตภัณฑ์ซิลิโคนยาแนวสำหรับอุดรอยต่อที่มีความยืดหยุ่น คงทนต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมสูง

โดยมีผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของบริษัท เช่น แบรนด์ ADB DB SPARKO DAI-I-CHI และ OMAKU และรับจ้างผลิต (OEM) ภายใต้การอนุญาตและกำกับดูแลขั้นตอนการผลิตจากเจ้าของตราสินค้าชั้นนำในระดับสากล นอกจากนี้ ยังผลิตและจำหน่ายสินค้าซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เสริมที่ใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์กาวเพื่อเพิ่มประสิทธิการยึดติดวัสดุและเสริมศักยภาพการใช้งานของกาว ได้แก่ น้ำยารองพื้น (Primer) ทินเนอร์ (Thinner) และสารทำให้แข็ง (Hardener)

กลุ่มที่สอง ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ (Plastic compound) ประกอบด้วย 1.ผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกพีวีซี (PVC compound) ทั้งแบบนิ่มที่นำไปใช้ในอุตสาหกรรมสายไฟและสายเคเบิ้ล และแบบแข็งซึ่งนำไปขึ้นรูปเพื่อผลิตขอบคิ้วเฟอร์นิเจอร์ ฟิล์มฉลากบรรจุภัณฑ์ต่างๆ และข้อต่อท่อพีวีซี เป็นต้น 2.เส้นใยสังเคราะห์โพลีโพรพิลีน โดยนำไปแปรรูปและจะถูกใช้เป็นฟิลเลอร์ร่วมกับเม็ดพลาสติกในกระบวนการผลิตสายไฟและสายเคเบิ้ล และ 3.เม็ดเทอร์โมพลาสติกอิลาสโตเมอร์ ซึ่งสามารถนำไปขึ้นรูปเพื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปตามความต้องการของลูกค้า ได้แก่ พื้นรองเท้า

นายหวัง กล่าวว่า บริษัทยังมีแผนงานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและผลักดันการเติบโตในอนาคต โดยอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในจังหวัดสมุทรปราการ ภายใต้งบลงทุนรวม 230 ล้านบาท เพื่อการผลิตสินค้าใหม่ ได้แก่ 1.ซิลิโคนยาแนว และ 2.โมดิฟายซิลิโคนพอลิเมอร์สำหรับยาแนว และเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าในปัจจุบัน ได้แก่ 1.อะคริลิกยาแนว และ 2.กาวแทนตะปู โดยผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 ชนิดดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะเพิ่มอัตรากำไรที่ดีขึ้นในอนาคต คาดว่าโรงงานแห่งใหม่จะเริ่มการผลิตและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4/61  ซึ่งจะมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมเพิ่มขึ้น 13,500 ตัน/ปี

ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกพีวีซีเพื่ออุตสาหกรรมการแพทย์ รองรับเทรนด์การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ ช่วยสร้างเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกฮาโลเจนฟรีเพื่อใช้ผลิตสายไฟที่ก่อให้เกิดควันและสารพิษต่ำเมื่อถูกไฟไหม้ เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานผลิตภัณฑ์จากพลาสติกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ด้านนายพิริยะ ม่วงคร้าม ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค ของ ADB กล่าวว่า คณะผู้บริหารได้ร่วมกันกำหนดแผนงานในการมุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมที่มีอัตรากำไรที่ดีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรวมถึงการลดต้นทุนการผลิต โดยใช้จุดแข็งของมีทีมวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่มีจากประสบการณ์ร่วมงานกับ ADB มานานกว่า 12 ปี พร้อมทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด จึงสามารถวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าเฉพาะราย อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญซึ่งทำให้บริษัทมีความสามารถในเชิงการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ บริษัทถือเป็นหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์กาวและยาแนวและผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจมากว่า 30 ปี และยังได้รับความไว้วางใจในการสั่งซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการชั้นนำของโลก นอกจากนี้ เชื่อมั่นว่าบริษัทมีศักยภาพในการผลิตสินค้าที่ดีและมีความหลากหลาย จึงมีคู่แข่งขันที่สามารถผลิตสินค้าในระดับเดียวกันเพียงไม่กี่รายและมีศักยภาพในการขยายตลาดที่คู่แข่งขันอาจยังไม่สามารถเข้าถึง

ด้านนางสุนิต วิสุทธิโกศล กรรมการผู้จัดการฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า ADB จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 180 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 30 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท

ปัจจุบัน ADB มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 600 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้วมีจำนวน 420 ล้านหุ้น และจะเสนอขายหุ้น IPO เพื่อระดมทุนนำไปซื้อเครื่องมือ เครื่องจักรและอุปกรณ์ผลิตสินค้าเพื่อขยายธุรกิจในอนาคต ชำระเงินกู้จากสถาบันการเงิน ใช้ลงทุนวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

Back to top button