BR ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

จากบทวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัท บางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน) หรือ BR จะมีกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 60 ที่ 142 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 2 ปี 60 จากราคาขายเป็ดที่ยังคงทรงตัวในระดับที่ดี แต่เป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดกว่าเท่าตัวจากไตรมาส 3 ปี 59 โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตกว่าเท่าตัวในเนเธอร์แลนด์ จากการเลิกกิจการของ VSE คู่แข่งเพียงรายเดียว ผลักดันยอดขายของส่วนงานต่างประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง


จากบทวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัท บางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน) หรือ BR จะมีกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 60 ที่ 142 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 2 ปี 60 จากราคาขายเป็ดที่ยังคงทรงตัวในระดับที่ดี แต่เป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดกว่าเท่าตัวจากไตรมาส 3 ปี 59 โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตกว่าเท่าตัวในเนเธอร์แลนด์ จากการเลิกกิจการของ VSE คู่แข่งเพียงรายเดียว ผลักดันยอดขายของส่วนงานต่างประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ที่สำคัญคาดว่าราคาขายเป็ดจะยังสามารถทรงตัวในระดับที่ดีต่อไป ขณะที่เทศกาลต่างๆ ในช่วงไตรมาส 4 จะช่วยผลักดันยอดขายของ BR ให้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ BR เองได้ต่อยอดไปยังธุรกิจอาหารแปรรูป โดยเริ่มเปิดดำเนินการโรงงานอาหารแปรรูปเมื่อช่วงปลายไตรมาส 3 ปี 60 ที่ผ่านมา พร้อมมีออร์เดอร์รองรับล่วงหน้าส่วนหนึ่งจากลูกค้าต่างประเทศแล้ว

ประกอบกับการเตรียมพร้อมรองรับการขยายตัวธุรกิจปลายน้ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการเข้าร่วมทุนกับ BTS ในการขยายธุรกิจร้านอาหารจีน “Chef Man” แม้คาดว่าจะยังไม่ส่งผลกับผลประกอบการในระยะสั้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่มีมุมมองที่ดีต่อการต่อยอดไปยังธุรกิจปลายน้ำของ BR ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาจากธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมไปยังธุรกิจอาหารที่สร้างความสามารถในการทำกำไรให้กับบริษัทได้มากกว่าในอนาคต

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2,104.68 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,855.50 ล้านบาท มาจากรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ ฟาร์มเลี้ยงเป็ด โรงฟักไข่ และรายได้จากการชำแหละเป็ดจากส่วนงานต่างประเทศ ซึ่งเป็นผลจากจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นจากการซื้อบริษัท VSE ในประเทศเนเธอร์แลนด์ทำให้ส่วนงานในต่างประเทศดังกล่าวมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 137.92 ล้านบาท หรือ 0.15 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 40.08 ล้านบาท หรือ 0.04 บาทต่อหุ้น

ส่วนผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 4,231.15 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 3,776.32 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 231.10 ล้านบาท หรือ 0.25 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 54.20 ล้านบาท หรือ 0.06 บาทต่อหุ้น เป็นการยืนยันว่าบริษัทมีความสามารถในการทำกำไรจริง

ยิ่งไปกว่านั้นโชคดีที่ฐานะทางการเงินของบริษัทค่อนข้างดีอยู่ เพราะมีสินทรัพย์หมุนเวียน 2,547.85 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียน 2,400.95 ล้านบาท ได้ค่า CURRENT RATIO อยู่ที่ระดับ 1.06 เท่า แสดงว่า บริษัทยังมีสภาพคล่องทางการเงินอยู่

ส่วนปัญหาหนี้สินของบริษัทไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะบริษัทมีหนี้สินรวม 4,058.06 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้น 4,517.19 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.90 เท่า ถือว่า ปัญหาหนี้สินของบริษัทยังไม่รบกวนสักเท่าไร

อีกทั้งทางนักวิเคราะห์ บล. ไอร่า ยังประเมิน BR มีกำไรสุทธิในปี 60 ที่ 569 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดดกว่า 167% มีกำไรต่อหุ้นที่ 0.62 บาท และประเมินราคาเหมาะสมปี 60 ที่ 9.30 บาทต่อหุ้น อิงระดับ P/E 15 เท่า แนะนำ “ซื้อ”

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท เจอาร์จีจี จำกัด 229,275,086 หุ้น 25.10%
  2. ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 59,236,902 หุ้น 6.48%
  3. BLACK RIVER CAPITAL PARTNERS FOOD FUND HOLDINGS (SINGAPORE) PTE LTD. 52,756,700 หุ้น 5.78%
  4. กองทุนเปิด บัวหลวงหุ้นระยะยาว 38,691,400 หุ้น  4.24%
  5. N.C.B.TRUST LIMITED-NORGES BANK 11 26,568,500 หุ้น 2.91%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายโชติ โภควนิช ประธานกรรมการ
  2. นายโชติ โภควนิช กรรมการอิสระ
  3. นายทวีชัย เจริญบัณฑิต รองประธานกรรมการ
  4. นายทวีชัย เจริญบัณฑิต กรรมการอิสระ
  5. นายโจเซฟ สุเชาว์วณิช รองประธานกรรมการ

Back to top button