สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวันศุกร์

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 พ.ย. 60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์(10 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้กฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ อย่างไรก็ดี ผลประกอบการแข็งแกร่งของบริษัทเทคโนโลยีช่วยลดช่วงลบ และดันดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นในช่วงท้ายตลาดจนปิดแดนบวกสวนทางอีกสองดัชนี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,422.21 จุด ลดลง 39.73 จุด, -0.17% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,582.30 จุด ลดลง 2.32 จุด, -0.09% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,750.94 จุด เพิ่มขึ้น 0.89 จุด, +0.01%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (10 พ.ย. ) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ประกอบกับเงินยูโรแข็งค่าขึ้นกดดันตลาด นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับกฎหมายปฏิรูปภาษีในสหรัฐยังได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปด้วยเช่นกัน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 1.38 จุด หรือ -0.35% ปิดที่ 388.69 จุด สำหรับตลอดสัปดาห์ ดัชนีร่วงลง 1.8% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือน

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 5,380.72 จุด ลดลง 27.03 จุด, -0.50% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,127.47 จุด ลดลง 55.09 จุด, -0.42% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,432.99 จุด ลดลง 51.11 จุด, -0.68%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (10 พ.ย.) จากแรงขายหุ้นกลุ่มค้าปลีกและพลังงาน ฉุดดัชนีหุ้นอังกฤษแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ที่ผ่านมา หรือในรอบ 6 สัปดาห์ นอกจากนี้เงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นยังได้ถ่วงบรรยากาศการซื้อขายในตลาดด้วย

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 51.11 จุด หรือ -0.68% ปิดที่ 7,432.99 จุด สำหรับทั้งสัปดาห์ ดัชนีร่วงลง 1.7%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ (10 พ.ย.) จากแรงเทขาย แม้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าและตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลงก็ตาม

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวลดลง 13.30 ดอลลาร์ หรือ 1.03% ปิดที่ระดับ 1,274.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ อย่างไรก็ดี ตลอดทั้งสัปดาห์ ราคาทองปรับตัวขึ้น 0.4%

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนเดือนธ.ค. ลดลง 10.4 เซนต์ หรือ 0.61% ปิดที่ 16.871 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 8.50 ดอลลาร์ หรือ 0.90% ปิดที่ 932.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 11.30 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 993.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (10 พ.ย.) หลังมีการเปิดเผยข้อมูลแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันยังแกว่งตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในตะวันออกกลาง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 43 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 56.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ปรับตัวขึ้น 2.3% ในรอบสัปดาห์

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 41 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 63.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ตลอดทั้งสัปดาห์ ปรับตัวขึ้น 2%

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (10 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการผลักดันกฎหมายปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ หลังจากวุฒิสภาสหรัฐได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนปฏิรูปภาษี ซึ่งมีเนื้อหาแตกต่างจากฉบับที่ผ่านโดยคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎร ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะสามารถประสานความแตกต่างในเนื้อหาเหล่านี้ให้ลงตัวได้หรือไม่

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1660 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1644 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3200 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3151 ดอลลาร์ ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7659 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7681 ดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.56 เยน จากระดับ 113.26 เยน แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9962 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9939 ฟรังก์สวิส และปรับตัวขึ้นแตะ 1.2686 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.2674 ดอลลาร์แคนาดา

Back to top button