PT สดใส

จะเห็นว่าแบงก์ใหญ่เริ่มทยอยเปิดเผยแผนการดำเนินงานปี 2561 และระยะยาว อิงจาก KBANK และ TMB ที่เพิ่มการลงทุนด้านไอทีมากกว่าปี 2560 ทำให้คาดว่าแบงก์อื่นจะมีกลยุทธ์ไม่ต่างกัน SCB ยังเป็นแบงก์ที่ลงทุนด้านไอทีมากสุด 4 หมื่นล้านบาทใน 3 ปีข้างหน้า


คุณค่าบริษัท

จะเห็นว่าแบงก์ใหญ่เริ่มทยอยเปิดเผยแผนการดำเนินงานปี 2561 และระยะยาว อิงจาก KBANK และ TMB ที่เพิ่มการลงทุนด้านไอทีมากกว่าปี 2560 ทำให้คาดว่าแบงก์อื่นจะมีกลยุทธ์ไม่ต่างกัน SCB ยังเป็นแบงก์ที่ลงทุนด้านไอทีมากสุด 4 หมื่นล้านบาทใน 3 ปีข้างหน้า

ส่วนแบงก์อื่นอยู่ในระดับ 2 – 6 พันล้านบาทต่อปี เพื่อรองรับการเติบโตของ Digital Banking ทั้ง Internet Banking และ Mobile Banking ซึ่ง ธปท. ระบุว่า จำนวนผู้ใช้บริการทั้ง 2 ประเภทในงวด 6 เดือนแรกปี 2560 ยังโตสูง 23% YTD และ 26% YTD ตามลำดับ ส่วนผลสำรวจของ The Financial Brand ตอกย้ำว่ากลยุทธ์นี้เป็นเหมือนกันทั่วโลก ซึ่งแบงก์ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงการบริการไปเป็นดิจิทัลมากถึง 71%

ทำให้หลายฝ่ายมีมุมมองเชิงบวกกับการเติบโต บริษัท พรีเมียร์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)  หรือ PT ใน 2-3 ปีข้างหน้าอย่างมาก จากการเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร ที่มีฐานลูกค้าแบงก์มากถึง 37% ของรายได้รวม แต่คิดเป็นเพียง 4-5% ของมูลค่าเงินลงทุนในแต่ละปีที่คาดราว 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งนอกจากจะทำให้รายได้ขยายตัวไม่น้อยกว่า 10% ต่อปี คาดว่าจะหนุนให้อัตรากำไรสุทธิเร่งตัวจาก 6% ในปัจจุบัน จากการแข่งขันที่ลดลงตามปริมาณงานที่มากขึ้นด้วย

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 801.73 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 554.17 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายและการให้บริการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 46.46 ล้านบาท หรือ 0.164 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 23.92 ล้านบาท หรือ 0.084 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,970.33 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,879.12 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 101.33 ล้านบาท หรือ 0.357 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 96.78 ล้านบาท หรือ 0.341 บาทต่อหุ้น สะท้อนถึงการเติบโตที่แท้จริง

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดว่าฐานกำไรจะยกตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2560 แล้ว คาดกำไรสุทธิปีนี้ 170 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และปี 2561 เป็น 187 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ที่สำคัญ ราคาปัจจุบันยังไม่แพง โดยคิดเป็น P/E ปี 2561 เพียง 10 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม SI ที่ 13 เท่า และใกล้กรอบล่างในอดีตที่ 9 เท่า ขณะที่ปันผลสูงสม่ำเสมอ 4-5% ต่อปี จึงยังแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2561 เท่ากับ 8.80 บาท อิง P/E 13 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. นางวิมลทิพย์ พงศธร 117,887,766 หุ้น 41.53%
  2. นายฮารกิชิน ทันวานี 26,000,000 หุ้น 9.16%
  3. บริษัท พรีเมียร์ ฟิชชั่น แคปปิตอล จำกัด 13,061,100 หุ้น 4.60%
  4. บริษัท เทพธัญญภา จำกัด 8,000,000 หุ้น 2.82%
  5. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 7,173,965 หุ้น 2.53%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการ
  2. นายวิเชียร พงศธร กรรมการผู้จัดการ (รักษาการ)
  3. นายวรเทพ รางชัยกุล ประธานกรรมการบริหาร
  4. นายวรเทพ รางชัยกุล กรรมการ
  5. นายสุรเดช บุณยวัฒน กรรมการ

Back to top button