สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 11 ธ.ค. 60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) โดยดาวโจนส์ และ S&P 500 ปิดทำนิวไฮ หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความตื่นตระหนกเกี่ยวกับเหตุก่อการ้ายที่เกิดขึ้นในย่านไทม์สแควร์เมื่อวานนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 12-13 ธ.ค.นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,386.03 จุด เพิ่มขึ้น 56.87 จุด หรือ +0.23% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,659.99 จุด เพิ่มขึ้น 8.49 จุด หรือ +0.32% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,875.08 จุด เพิ่มขึ้น 35.00 จุด หรือ +0.51%

 

ตลาดหุ้นยุโรป ปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้สร้างแรงกดดันต่อตลาด อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดตลาดดีดตัวขึ้น เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นบริษัทข้ามชาติ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลง 0.05% ปิดที่ 389.05 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,123.65 จุด ลดลง 30.05 จุด หรือ -0.23% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,386.83 จุด ลดลง 12.26 จุด หรือ -0.23% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,453.48 จุด เพิ่มขึ้น 59.52 จุด, +0.80%

 

ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) ด้วยอานิสงส์จากสกุลเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สืบเนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักรจะผลักดันข้อเสนอ Brexit ที่มีการตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนหน้าการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (EU) ในวันที่ 14-15 ธ.ค.นี้

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 59.52 จุด หรือ +0.80% ปิดที่ 7,453.48 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) หลังจากมีรายงานว่า ท่อส่งน้ำมันขนาดใหญ่ในทะเลเหนือของอังกฤษ จะปิดทำการซ่อมแซมเป็นเวลาหลายสัปดาห์ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังปรับตัวขึ้น หลังจากเกิดเหตุก่อการร้ายในย่านไทม์สแควร์ของสหรัฐเมื่อวานนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 63 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 57.99 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น  1.29 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 64.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นทำนิวไฮ รวมทั้งปัจจัยกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 1.50 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ระดับ 1,246.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 3.8 เซนต์ หรือ 0.24% ปิดที่ 15.785 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 9.10 ดอลลาร์ หรือ 1.03% ปิดที่ 892.80 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 2.35 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 998.75 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) ขณะนักลงทุนชะลอการซื้อขาย ก่อนหน้าการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 12-13 ธ.ค.นี้

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1792 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1768 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3348 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3399 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7535 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7503 ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.47 เยน จากระดับ 113.53 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9907 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9925 ฟรังก์สวิส

Back to top button