ลุ้นกันต่อ

*เริ่มต้นศักราชใหม่ “โมนิก้า” ถือเคล็ดว่า ควรพูดแต่สิ่งดีๆ สิ่งไม่ดีควรงดเว้น และห้ามตั้งอยู่บนความประมาท เดี๊ยนเลยถือโอกาสพูดถึงทิศทางธุรกิจประเภทต่างๆ เพื่อทำให้นักลงทุนเห็นภาพการลงทุนตลอดปี 2561 ได้ชัดเจนขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นการเตือนสตินักลงทุนอย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ และควรกำหนดรูปแบบการลงทุนด้วยตนเอง หรือถ้าเป็นไปได้ควรปรับพอร์ตการลงทุนให้กระชับขึ้นกว่าเดิมนะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*เริ่มต้นศักราชใหม่ “โมนิก้า” ถือเคล็ดว่า ควรพูดแต่สิ่งดีๆ สิ่งไม่ดีควรงดเว้น และห้ามตั้งอยู่บนความประมาท เดี๊ยนเลยถือโอกาสพูดถึงทิศทางธุรกิจประเภทต่างๆ เพื่อทำให้นักลงทุนเห็นภาพการลงทุนตลอดปี 2561 ได้ชัดเจนขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นการเตือนสตินักลงทุนอย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ และควรกำหนดรูปแบบการลงทุนด้วยตนเอง หรือถ้าเป็นไปได้ควรปรับพอร์ตการลงทุนให้กระชับขึ้นกว่าเดิมนะคะ

*เนื่องจากตลาดหุ้นไทยจะผันผวนมากขึ้นอย่างแน่นอน..ใครที่คิดว่าหุ้นไทยจะทะยานอย่างร้อนแรงเหมือนกับในช่วงปลายปี 2560  ขอให้เลิกฝันตอนกลางวันแสกๆ ได้แล้ว และควรยืดอกพกถุง (เงิน) ขึ้นมาเผชิญกับความจริงเสียที เพราะปี 2561 จะเป็นการเริ่มต้นของการช่วยกันดันให้บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กสามารถทำกำไรได้อย่างโดดเด่น เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าระบบเศรษฐกิจของไทยเข้มแข็งทุกภาคส่วนนะจ๊ะ

*สำหรับสภาพการลงทุนในช่วงปีใหม่จะสดใสตั้งแต่ต้นปี 2561 หรือไม่นั้น! ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะเมื่อสำรวจอุณหภูมิรอบด้านที่เกี่ยวข้องกับการทำให้หุ้นทะยานอย่างมั่นคงพบว่ายังมีหลายประเด็นให้ติดตาม แถมแต่ละเรื่องก็เกี่ยวข้องกับหุ้นแต่ละกลุ่มเสียด้วย “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนมองการอ่อนตัวของดัชนีเที่ยวนี้เป็นเรื่องของ Fund Flow มากกว่าประเด็นอื่นๆ..หากเราเข้าใจถึงหลักการลงทุนเรื่องนี้ก็จะพบว่าการเทขายหุ้นของต่างชาติ เป็นการกระทำที่ถูกต้องเจ้าค่ะ

*ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์แนะนำให้นักลงทุนเทขายหุ้นทำกำไร เมื่อดัชนีเริ่มขยับขึ้นมาแถวๆ 1,750 จุด ในขณะเดียวกันก็มีนักลงทุนบางส่วนมองว่าครั้งนี้ดัชนีจะฝ่าขึ้นไปได้?? (รอบที่แล้วก็คิดแบบนี้) “โมนิก้า” ถึงย้ำแล้วย้ำอีกว่า ใครอ่านจังหวะขึ้นลงของดัชนีได้แม่นย่ำกว่ากัน คนนั้นได้สิทธิ์รับโชคใหญ่จากตลาดหุ้นทันที..งานนี้บอกได้คำเดียวว่า ตาดีได้ ตาร้ายเสีย (ปัจจัยพื้นฐานช่วยได้นิดหน่อย) นะคะ

*สถานการณ์ดังกล่าวทำให้หลายคนมองว่าดัชนียังมีโอกาสอ่อนตัวลงไปยังแนวรับ 1,700 จุดค่อนข้างสูง!!..ส่วนจะลงไปจริงหรือไม่? เป็นเรื่องที่ค่อยมาคุยกันทีหลัง เพราะอารมณ์ของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ ยังคงคึกคักเหมือนเดิม ขณะเดียวกันตัวแปรทางด้านต่างๆ ก็คอยบิ้วด์อารมณ์ตลอดเวลา ความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะอ่อนตัวลงไปทดสอบแนวรับด้านล่าง จึงเป็นเพียงแค่ความกังวลเล็กๆ ที่เรียกว่า คิดไปเองเจ้าค่ะ

*ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่า เปิดพุทธศักราชใหม่ขึ้นมาปุ๊บ นักวิเคราะห์ยังแนะนำให้นักลงทุน “ซื้อ” ปั๊บ เท่ากับเป็นการกระตุ้นอารมณ์นักลงทุนรายย่อยให้รู้จักตื่นตัวตลอดเวลา เพราะการลงทุนในปี 2561 เขาวัดความสำเร็จกันที่เรื่องของข่าวสาร และจังหวะการเข้าทำ ซึ่งเป็นผลมาจากอาการแกว่งตัวของดัชนีจะรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม  นักลงทุนกลุ่มต่างๆ จะหันมาเล่นเก็งกำไรกันมากขึ้นพะยะค่ะ

*นั่นหมายความว่า คนที่รู้จักแนวคิดมันนี่เกม จะกลายเป็นผู้ชนะ..ซึ่งเห็นได้จากปรากฏการณ์ side way down หรือ side way up ใครเข้าซื้อหุ้นแล้วออกของไม่ทัน รับรองว่าเจ็บตัวทุกราย ยิ่งถือยาวเท่าไหร่ ยิ่งอึดอัดใจมากขึ้นเท่านั้น โดยผลลัพธ์ที่ปรากฏออกมาอย่างเป็นทางการพบว่า จังหวะซื้อขายสำคัญสุด! เดี๊ยนถึงต้องการให้นักลงทุนชายตามองสภาพแวดล้อมก่อนลงมือเคาะขวาไงล่ะคะ

*เหมือนกับในรายของหุ้นสุดรัก GULF ค่อนข้างมีสตอรี่ดีรองรับเต็มประตูหน้าต่าง และยังมีพัฒนาการสำคัญที่ปรากฏให้เห็นเป็นระยะ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนลองพิจารณาข้อมูลหุ้นตัวนี้ให้ดีเสียก่อน เพราะยังมีข่าวดีบางเรื่องที่ยังไม่ถูกปล่อยออกมา..งานนี้ใครคิดว่าหุ้นตัวนี้จะมีพัฒนาดีขึ้นอย่างต่อเนื่องก็หาจังหวะทยอยซื้อหุ้นไปเรื่อยๆ หลังเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 65 บาท บวกไป 2.75 บาท ด้วยมูลค่า 2.96 พันล้านบาท เดี๋ยวจะหาว่าคนสวยมีอะไรดีแล้วไม่บอกนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ GPSC รายนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกิมมิคที่น่าสนใจ แถมรูปแบบการเคลื่อนตัวของหุ้นเป็นลักษณะขึ้นแบบมีวอลุ่มหนุนทุกวัน พ่วงด้วยปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น อีกทั้งสัปดาห์ก่อนมีคำสั่งซื้อหุ้นเข้ามาไม่ขาดสาย พวกพรายกระซิบที่เล่นสัญญาณเทคนิคถึงมั่นใจว่ามีสิทธิ์วิ่งขึ้นไปไกลกว่านี้อีกเยอะ เพราะหุ้นเพิ่งขึ้นมายืนอยู่ที่ 72 บาท บวกไป 1 บาท ด้วยมูลค่า 395.54 ล้านบาท บอกได้คำเดียวว่ากระฉูดแน่นอนพะยะค่ะ

*ไหนๆ พูดถึงหุ้นที่มีธุรกิจหลากหลาย “โมนิก้า” ขอเปลี่ยนอิริยาบถไปดูหุ้นลีสซิ่งดาวรุ่งบ้างดีกว่า และตัวที่อยากจะพูดถึงมากเป็นอันดับแรกก็คือ MTLS ราคาหุ้นยังย่ำฐานวนเวียนไปมาที่ระดับ 38 บาทหลายรอบ จึงมีคนอยากรู้ว่า ราคาหุ้นจะทะยานขึ้นไปทำ all time high ได้หรือเปล่า? เนื่องจากรอบที่แล้วราคาหุ้นเคยขึ้นไป 39.50  บาท ขณะที่ราคาล่าสุดยืนอยู่ที่ 38.75 บาท จึงเป็นหุ้นที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่งนะจ๊ะ

*อีกตัวที่น่าจับตามากที่สุดก็คือ JAS หลังจากโดนมรสุมแรงเทขายกระหน่ำซัดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ล่าสุดราคาหุ้นก็เริ่มปรับตัวขึ้นอีกครั้ง จนมีผู้คนอยากรู้ว่ารอบนี้ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นไปถึงระดับ 7.50 บาทไหม?  “โมนิก้า” ตอบแทนได้ทันทีว่ามีโอกาสไปถึงแน่นอน! เพราะไซเคิลของหุ้นเคลื่อนตัวแบบ side way up แถมฐานใหม่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องแบบนี้ ทำให้ราคาปิดที่ 7.10 บาท สามารถทำการ follow buy ได้เลยเจ้าค่ะ

Back to top button