PTTEP ต้อง 1.50 เท่าบุ๊ค

สิ่งที่อาจารย์อยากให้นักลงทุนตระหนักมากสุดในช่วงที่กำลังจะลงทุนรอบใหม่คือ นักลงทุนรู้จักหุ้นตัวนั้นดีแค่ไหน?


ตีแผ่บจ.ดัง

คุณมานพ จากบางขุนเทียน กรุงเทพฯ พูดถึงหุ้น PTTEP หรือ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันอีกครั้ง จนราคาหุ้นพุ่งทะลุราคา 100 บาทอีกครั้ง จึงเกิดความมั่นใจขึ้นมาในทันทีว่า ธุรกิจได้ผ่านพ้นจุดเลวร้ายมาแล้วอย่างแน่นอน ยิ่งทำให้ผมเริ่มมองเป้าหมายของหุ้นตัวนี้อย่างต่ำต้อง 1.50 เท่าของบุ๊ค หรือ 140 บาทเป็นอย่างต่ำ อาจารย์คิดอย่างไรกับแนวความคิดแบบนี้ครับ

 

สิ่งที่อาจารย์อยากให้นักลงทุนตระหนักมากสุดในช่วงที่กำลังจะลงทุนรอบใหม่คือ นักลงทุนรู้จักหุ้นตัวนั้นดีแค่ไหน?

เนื่องจากเป็นข้อมูลขั้นพื้นฐานที่จะทำให้นักลงทุนได้ล่วงรู้ว่า หุ้นตัวนั้นมีอนาคตขนาดไหน? และกลยุทธ์ในการลงทุนควรเป็นแบบ “สั้นๆ” หรือ “ยาวๆ” ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนแบกรับปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี จึงต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นกรณีพิเศษ

เหมือนกับการลงทุนในหุ้น PTTEP หรือ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เป็นอะไรที่เหนือการคาดเดาจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาหุ้นลงมาแถวๆ 100 บาท ทุกคนมองว่า ระดับนี้เป็นจุดที่สามารถทยอยลงทุนได้ แต่ราคาหุ้นกลับอ่อนตัวทะลุแนวรับ 100 บาทอย่างง่ายดาย ก่อนจะลงไปย่ำฐานอยู่ที่บริเวณ 85 บาทอีกพักใหญ่ๆ นั้น

อาจารย์มองเป็นเรื่องของปัจจัยพื้นฐานที่เปลี่ยนแปลงไปในทางแย่ลง บวกกับ นักลงทุนต่างชาติลดน้ำหนักการลงทุนในประเทศไทย อีกทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์ทั้งหมดเลยเลวร้ายลงเรื่อยๆ ซึ่งเป็นชนวนเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นลงมาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี 94 บาท

ที่น่าสนใจคือ ในช่วงที่ราคาหุ้น PTTEP  อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง เกิดขึ้นในช่วงกลางปี 57 ต่อเนื่องถึงปี 58 และลงมาทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ 40 บาทต้นๆ ในช่วงกลางเดือน ม.ค. 59 ต่อจากนั้นราคาหุ้นก็ฟื้นตัวดีขึ้นเป็นลำดับ จนเมื่อไม่นานมานี้ก็ขึ้นไปยืนเหนือ 100 บาทอีกครั้ง ในช่วงปลายเดือน ม.ค. 60 แต่สุดท้ายหุ้นก็อ่อนตัวลงมายืนแถว 85 บาทก่อนจะถีบตัวขึ้นไปยืนแถว 100 บาทเมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา

โดยประเด็นที่ทำให้ราคาหุ้นวิ่งกลับขึ้นมายืนที่บริเวณ 100 บาทอีกครั้ง ล้วนมาจากความเชื่อเกี่ยวกับผลงานในปี 61 จะออกมาดีกว่าปีก่อนๆ และเมื่อมองถึงมูลค่าทางบัญชีในระดับ 94 บาท เทียบกับราคาหุ้นในประดาน ย่อมทำให้เห็นว่า ราคาหุ้นถูกเกินไปจริงๆ

เมื่อทุกคนมองว่า หุ้นถูกเกินไปจริงๆ กระบวนความคิดในการมองหุ้นควรจะขึ้นไปถึง 1.50 เท่าบุ๊คก็บังเกิดขึ้นทันทีเช่นกัน ซึ่งเป็นที่มาของราคาเป้าหมาย 140 บาท(บุ๊ค 94 คูณกับ 1.50 เท่า)

ปัญหาที่มีอยู่ในเวลานี้มีเพียงเรื่องเดียวคือ หุ้นจะไปถึงระดับดังกล่าวจริงไหม? ผลงานในปี 61 จะดีขึ้นจริงไหม? รวมทั้งจะมีอะไรแอ็กซิเดนต์ระหว่างทางไหม?

หากตัวนักลงทุนคิดว่า ไม่มีปัญหาอะไรต้องกังวล นี่คือจังหวะตามกระแส เพราะราคาเป้าดังกล่าวไม่สูงจนโอเวอร์นะครับ

สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย

 

กราฟประกอบคอลัมน์ : Aspen, ราคาปิดณ วันที่ 5 ม.ค.61

Back to top button