เปิด 3 ประเด็นสำคัญวันนี้ โบรกฯ แนะกลยุทธ์ “Selective Buy”

เปิด 3 ประเด็นสำคัญวันนี้ โบรกฯ แนะกลยุทธ์ "Selective Buy"


บล.กรุงศรี ระบุว่า ประเมิน SET จะรีบาวด์ขึ้นทดสอบ 1,785 – 1,790 จุด ก่อนจะสลับอ่อนตัว  จากปัจจัยบวกตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งในขณะที่ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดซึ่งทำให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดลง ประกอบกับข่าวสหรัฐฯและเกาหลีเหนือจะเจรจาในเดือนพ.ค.เพื่อฟื้นฟูสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลีและหาทางออกปัญหานิวเคลียร์ที่ยืดเยื้อมานาน

นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นแรงตอบรับจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐฯลดลง 4 แท่นสู่ 796 แท่นซึ่งหนุนต่อหุ้นกลุ่มพลังงานอีกด้วย  อย่างไรก็ตามคาดว่าภาวะตลาดจะมีแรงขายสลับเข้ามาในช่วงดีดตัวจากความกังวล US Bond Yield 10 ปีสหรัฐที่พุ่งขึ้นเหลือระดับ 2.90%อีกครั้ง

ส่วนกลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “Selective Buy”

1.กลุ่มพลังงานและปิโตรฯ ( PTT PTTEP IRPC PTTGC ) อานิสงส์ราคาน้ำมันรีบาวด์ขึ้นแรง

2.กลุ่ม Domestic Play เช่น ค้าปลีก (CPALL HMPRO)  กลุ่มรพ. ( BCH BH BDMS )

3.กลุ่มปันผลเด่น เช่น ADVANC  INTUCH  TISCO

4.TVO ราคากากถั่วเหลืองทำ High ในรอบ 1ปีครึ่ง ล่าสุด 374 US/Tons

หุ้นแนะนำวันนี้ : PTTGC (ปิด 95 ซื้อ/เป้า 100) คาดกำไรสุทธิในปีนี้จะพุ่งทำสถิติสูงสุดได้เป็นประวัติการณ์อีก 1 ปี จากแรงหนุนของปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น โดยปีนี้ PTTGC มีแผนเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการ คือ โครงการ mLLDPE เริ่มผลิตไตรมาส 1/61 และ โครงการ ME หน่วยที่ 2 เริ่มผลิตไตรมาส 4/61

ขณะที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากความต้องการที่สูงขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยปีนี้เราคาดกำไรสุทธิประมาณ 44,982 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีปี 61 : ธนาคาร, พลังงาน, อาหารและเครื่องดื่ม และ อสังหาริมทรัพย์

Top picks ปีนี้ : ANAN, BANPU, BBL, BCH, IVL, HTC, MINT, PTTGC, SPALI and TMB

KSS report วันนี้ : JMT (ปิด 30.75 ซื้อ/เป้า 36 เดิม 38), TISCO (ปิด 87 อัพเกรดเป็น ซื้อ/เป้า 98)

สำหรับประเด็นสำคัญวันนี้มีดังนี้

1.ดาวโจนส์พุ่งแรงกว่า 440 จุด ตอบรับตัวเลขจ้างงานดีเกินคาด และ ค่าจ้างแรงงานไม่ได้เพิ่มขึ้นร้อนแรงจนเกินไป : สหรัฐประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non farm payrolls) เดือน ก.พ.เพิ่มขึ้น 313,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง

ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% สะท้อนความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคลายกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อที่จะเร่งตัวขึ้น หลังอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงแรงงานเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเพียง 2.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงจากเดือน ม.ค.ที่เพิ่มขึ้น 2.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

2.คาบสมุทรเกาหลีดูผ่อนคลาย หลังโดนัลทรัมป์ เตรียมประชุมร่วมกับ คิมจอง อึน ในเดือน พ.ค. : สถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีมีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้น หลังจากเกาหลีเหนือแสดงเจตจำนงในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในระหว่างการหารือร่วมกับคณะผู้แทนเกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ ของสหรัฐยังได้ตอบรับข้อตกลงที่จะพบปะกับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ภายในเดือนพฤษภาคมนี้  ทำให้ทั้งโลกมีความคาดหวังเชิงบวกว่าทั้งสองประเทศจะหันหน้าเจรจาแทนการยั่วยุและนำสันติภาพคืนสู่คาบสมุทรเกาหลีต่อไป

3.กลุ่มธุรกิจน้ำมัน – ราคาน้ำมันดิบบวกแรงตอบรับข่าวแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์ : ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมาเพิ่มขึ้น 1.92 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 62.04 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนตอบรับข่าวจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 4 แท่น เป็น 796 แท่น นับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์

Back to top button