EA ยันหนักแน่น! สัญญาโรงไฟฟ้าไม่มีหมดอายุ จ่อทุ่มแสนล้านผลักดันธุรกิจแบตเตอรี่

EA ยันหนักแน่น! สัญญาโรงไฟฟ้าไม่มีหมดอายุ จ่อทุ่มแสนล้านผลักดันธุรกิจแบตเตอรี่ ส่วนความคืบหน้าบนพื้นที่สีเขียวที่วางแผนทำโครงการเกี่ยวกับการกักเก็บแบตเตอรี่ ขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นเรื่องต่อหน่วยงานเพื่อดำเนินการปรับเปลี่ยนผังสีต่อไป


นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ทีวีดิจิทัลช่อง 19 และสถานีวิทยุกระจายเสียงกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) FM 102 MHz. ว่า กรณีมีกระแสข่าวลือว่าผู้บริหารใหญ่ขายหุ้นออกมาในช่วงก่อนหน้านี้ บริษัทขอยืนยันเพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่นักลงทุนว่าไม่มีการขายหุ้นออกไปแต่อย่างใด โดยเป็นเพียงการโอนหุ้นเข้าทรัสในต่างประเทศคือ SOTUS&FAITH และได้มีการแจ้งเจตน์จำนงค์ต่อ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่าโรงไฟฟ้าจะมีการหมดสัญญา นายอมร กล่าวว่า สัญญาการขายไฟทั้งหมดของบริษัทเป็นสัญญาการซื้อขายไฟแบบมีแอดเดอร์ โดยแอดเดอร์จะมีระยะสัญญาเป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่เริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ขณะที่สัญญาการขายไฟจะเป็นการต่ออายุสัญญาไปเรื่อยๆ ไม่มีหมดอายุจนกว่าโรงไฟฟ้าจะไม่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้

โดยปัจจุบันโรงไฟฟ้าของบริษัท อาทิ โรงไฟฟ้าที่ จ.ลพบุรี มีค่าแอดเดอร์อยู่ที่ 8 บาท และจะหมดอายุสัญญาในปี 2565, โครงการโรงไฟฟ้า จ.นครสวรรค์ มีค่าแอดเดอร์อยู่ที่ 6.50 บาท หมดสัญญาในปี 2566, โครงการโรงไฟฟ้า จ.ลำปาง มีค่าแอดเดอร์ 6.50 บาท หมดสัญญาในปี 2569 และโครงการโรงไฟฟ้า จ.พิษณุโลก มีค่าแอดเดอร์อยู่ที่ 6.50 บาท หมดสัญญาในปี 2569

อีกทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานลมของบริษัท อาทิ โครงการหาดกังหัน และโครงการหนุมาร ก็เป็นสัญญาการซื้อขายไฟฟ้าแบบมีแอดเดอร์ด้วยเช่นกัน แต่มีค่าแอดเดอร์อยู่ที่ 3.50 บาท ซึ่งจะน้อยกว่าค่าแอดเดอร์ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถถึงจุดคุ้มทุนและสามารถชำระหนี้ได้หมดก่อนก่อนสัญญาแอดเดอร์จะหมดอายุ ซึ่งค่าไฟในหลังจากนั้นจะถือว่าเป็นกำไรของบริษัทที่จะเข้ามาในทุกปี

ส่วนความคืบหน้าเรื่องที่ดินที่บริษัทเตรียมผลักดันโครงการใหม่ของบริษัท ซึ่งเกี่ยวข้องกับการกักเก็บแบตเตอร์รี่บนพื้นที่สีเขียว ปัจจุบันได้มีการยื่นเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการเรื่องการปรับเปลี่ยนผังสี โดยบริษัทได้ดำเนินการไปกฎระเบียบต่างๆ ตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง

“ส่วนเรื่องการลงทุนแสนล้านจะโฟกัสไปที่โรงงานแบตเตอรี่ ที่ประกาศว่าจะทำขนาด 50 กิ๊กกะวัตต์อาว ซึ่งนอกจากนี้ยังมีเงินทุนไปทำธุรกิจอื่น เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ชัยภูมิ และเรื่องจุดชาร์จแบตเตอรี่ไฟฟ้า รวมถึงเรื่องรถ EV ในอนาคต โดยบริษัทมีการจัดการเกี่ยวกับกระแสเงินสดของบริษัทอยู่แล้ว ทำให้ในช่วงที่ผ่านมา D/E ลดลงอย่างต่อเนื่อง จาก 3 เท่า เหลือประมาณ 2 เท่า ซึ่งเป็นการสะท้อนเครดิตเรตติ้งที่ก่อนหน้านี้ทริสได้เพิ่มอันดับเครดิสจาก BBB+ เป็น A-” นายอมร กล่าว

Back to top button