DIGI เริ่มเห็นแสงสว่าง

อันที่จริงก็มีบทความเขียนเกี่ยวกับอนาคตของหุ้น DIGI มีให้เห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งเรื่องในด้านบวก และเรื่องในด้านลบ ส่งผลให้สถานการณ์ของบริษัทยังไม่มีอะไรนิ่งสักอย่าง เพราะธุรกิจที่บริษัทมุ่งหน้าไปนั้น ยังไม่มีธุรกิจไหนทำเงินอย่างจริงๆ สักทีนั่นเอง


ตีแผ่บจ.ดัง

คุณมยุรา จาก อ.เมือง จ.นนทบุรี พูดถึงข่าวที่ร้อนแรงสุดในหมู่นักลงทุนรายย่อยเป็นเรื่องของหุ้น DIGI หรือ บริษัท ดิจิตอลเทค แพลนเน็ต จำกัด (มหาชน) ขายหุ้นมากถึง 20% ให้กับผู้บริหารระดับสูงของ “โค้วยู่ฮะ” ที่ชื่อ “นายจิรวุฒิ คุวานันท์” ทำให้ทุกคนเชื่อว่า สถานการณ์ของบริษัทจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงอยากให้อาจารย์ช่วยประเมินสถานการณ์ของหุ้นตัวนี้ในอนาคตด้วยครับ

 

อันที่จริงก็มีบทความเขียนเกี่ยวกับอนาคตของหุ้น DIGI มีให้เห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งเรื่องในด้านบวก และเรื่องในด้านลบ ส่งผลให้สถานการณ์ของบริษัทยังไม่มีอะไรนิ่งสักอย่าง เพราะธุรกิจที่บริษัทมุ่งหน้าไปนั้น ยังไม่มีธุรกิจไหนทำเงินอย่างจริงๆ สักทีนั่นเอง

อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมาก็มีหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่รายหนึ่งมีเรื่องดราม่าเกิดขึ้น พร้อมกับมีการผูกเรื่องราวในทำนองชักชวนให้คนมาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ กับหุ้น สุดท้ายคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องก็ประสบกับปัญหาขาดทุนกันอย่างถ้วนหน้า จนกลายเป็นเรื่องทะเลาะออกสื่อในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

โดยข่าวดังกล่าวกลายเป็นที่สนใจ และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก สำหรับคอร์ส “เข็มทิศชีวิต” ของ “ครูอ้อย-ฐิตินาถ ณ พัทลุง” ที่มีดาราและนักธุรกิจดังเข้ามาร่วมคอร์สจำนวนมาก และตัวเธอเองก็ถือหุ้นใหญ่ในหุ้น DIGI เป็นจำนวน 23,710,220 ล้านหุ้น หรือ 1.50% ซึ่งมีผลตอบรับทั้งในแง่ดีและแง่ลบเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ก่อนเรื่องราวดังกล่าวจะเงียบหายไปในท้ายที่สุด

ล่าสุด DIGI มาเป็นข่าวอีกทีตอนที่ผู้ถือหุ้นใหญ่เบอร์ 1 “นายปรเมษฐ์ รังรองธานินทร์” ขายหุ้นมากถึง 20% ให้กับผู้บริหารระดับสูงของ “โค้วยู่ฮะ” ที่ชื่อ “นายจิรวุฒิ คุวานันท์” ทำให้ทุกคนเชื่อว่า สถานการณ์ของบริษัทจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และทำให้ราคาหุ้นพุ่งทะยานอย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา

ประเด็นคำถามจึงอยู่ที่ว่า DIGI มีโอกาส “เทิร์นอะราวด์” มากน้อยขนาดไหน เพราะกระแสในตลาดหุ้นพูดกันไปถึงขั้นการเข้าตลาดหุ้นทางอ้อม การควบรวมกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ RML หรือ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งผู้บริหารระดับสูงรายนี้ถือหุ้นเกือบ 9% และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 3 และยังมีการซื้อหุ้น RML ต่อจาก CGH หรือ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เพิ่มอีก 10% รวมแล้วถือหุ้นทั้งสิ้นเกือบ 20%

นั่นหมายความว่า วันนี้ DIGI น่าจะมีหนทางที่สว่างสดใสมากกว่าเดิม เพราะเมื่อดูจากไทม์ไลน์ของเรื่องที่เกิดขึ้น ย่อมทำให้รู้ได้ในทันทีว่า ในอนาคตน่าจะมีธุรกรรมบางอย่างที่เป็นบวกกับบริษัท และจะทำให้หุ้นตัวนี้กลับมาได้รับความสนใจอย่างมีนัยสำคัญอย่างแน่นอน

ปัญหามีอยู่แค่ว่า แล้วดีลดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ?

หากยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นรูปธรรม ตัวบริษัทก็คงขาดทุนเรื้อรังเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ (ดูตารางประกอบ)

ข้อสรุปของอาจารย์คือ วันนี้นักลงทุนกล้าซื้อหุ้น DIGI ทิ้งไว้ เพื่อลุ้นให้ทุกอย่างออกมาดีหรือเปล่า?

คำตอบทั้งหมดอยู่ที่ตัวนักลงทุนทั้งหมดนะครับ

สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย

Back to top button