B52 สู่เครื่องมือแพทย์

แม้จะผ่านการปรับโครงสร้างธุรกิจ โครงสร้างผู้ถือหุ้น และเปลี่ยนชื่อมาแล้วหลายรอบ แต่ดูเหมือน B52 ก็ยังควานหาธุรกิจหลักไม่เจอซักกะที..!


ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้จะผ่านการปรับโครงสร้างธุรกิจ โครงสร้างผู้ถือหุ้น และเปลี่ยนชื่อมาแล้วหลายรอบ แต่ดูเหมือนบริษัท บี-52 แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ B52 ก็ยังควานหาธุรกิจหลักไม่เจอซักกะที..!!

สะท้อนได้จากผลประกอบการที่ยังจมปลักอยู่กับตัวเลขขาดทุนซ้ำซาก โดยปี 2561 มีรายได้รวม 844 ล้านบาท ขาดทุน 319 ล้านบาท ปี 2562 มีรายได้รวม 35 ล้านบาท ขาดทุน 76 ล้านบาท ปี 2563 มีรายได้รวม 32 ล้านบาท ขาดทุน 62 ล้านบาท และปี 2564 มีรายได้รวม 73 ล้านบาท ขาดทุน 96 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนแรกปี 2565 มีรายได้รวม 112 ล้านบาท ขาดทุน 113 ล้านบาท

จนถูกขนานนามเป็นหุ้น 4 ชื่อ 100 ธุรกิจไปซะแล้ว..!!

เริ่มจากย้อนไปเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2521 เข้าเทรดด้วยชื่อ บริษัท บางกอก ไนล่อน จำกัด (มหาชน) หรือ BNC กับธุรกิจผลิตและจำหน่ายถุงเท้าทั้งในและต่างประเทศ แต่เจอวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ทำให้ BNC มีปัญหาการเงิน ธุรกิจจึงหยุดชะงักไป

ต่อมาช่วงปลายปี 2556 มีกลุ่มทุนใหม่เข้ามา แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ ABC หันมาทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ก็ไปไม่รอด ประสบปัญหาขาดทุนบานเบอะ จึงถูกเปลี่ยนมืออีกครั้งในช่วงปี 2560 และเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ดิจิตอลเทค แพลนเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ DIGI พร้อมกับสตอรี่ใหม่รุกไปสู่ธุรกิจอี-เพย์เมนต์ และอี-คอมเมิร์ซ พ่วงด้วยธุรกิจโรงพยาบาลสัตว์และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม แต่ก็ยังไม่สามารถสะกดกำไรได้…

กระทั่งในปี 2562 หุ้น DIGI ก็เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็นบริษัท บี-52 แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ B52 ภายใต้ผู้ถือหุ้นใหญ่คนใหม่ “จิรวุฒิ คุวานันท์”….

ปัจจุบัน B52 มีธุรกิจที่หลากหลาย แบ่งเป็น 5 กลุ่มธุรกิจด้วยกัน ได้แก่ 1) กลุ่มธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 2) กลุ่มธุรกิจจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค 3) กลุ่มธุรกิจให้บริการโฆษณาทางสื่อออนไลน์ และ 4) กลุ่มธุรกิจบริการทางการเงินโดยการเป็นตัวแทนนายหน้า…

ทว่า B52 ก็ยังหนีไม่พ้นวิบากกรรมขาดทุน..!! น่าเห็นใจจริง ๆ…

แต่ B52 ก็ไม่ละความเพียรพยายามในการควานหาธุรกิจใหม่ ล่าสุดก็ควักเงิน 10.25 ล้านบาท ซื้อหุ้นสัดส่วน 55% ในบริษัท เว็ทส์ แอนด์ มอร์ จำกัด (V&M) เพื่อรุกสู่ธุรกิจเครื่องมือแพทย์และบริการทางการแพทย์…

หลังจากก่อนหน้านี้ชิมลาง ด้วยการจับมือกับมหาวิทยาลัยมหิดล จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อบริษัท เอ็มเมด ฟาร์ม จำกัด เพื่อต่อยอด และพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์-บริการทางการแพทย์และสุขภาพ ได้แก่ ยารักษาโรค, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามิน, สมุนไพร, อาหารทางการแพทย์, อุปกรณ์ทางการแพทย์ และนวัตกรรมทางการแพทย์ ภายใต้แบรนด์ M MED มาแล้ว

ถ้าดูจากธุรกิจเครื่องมือแพทย์และสุขภาพที่เป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ ซึ่งมีโอกาสเติบโตสูง ไม่แน่บริษัท เว็ทส์ แอนด์ มอร์ อาจเป็นความหวังใหม่ที่จะทำให้ B52 ฟื้นตัว หรืออย่างน้อย ๆ ก็ไม่น่าจะแย่ไปกว่านี้ละมั้ง..!!

ส่วนจะขยับขึ้นมาเป็นธุรกิจหลักหรือเรือธงเลยมั้ย..? ตอนนี้ยังตอบยาก ต้องดูกันยาว ๆ…

แต่ก็เอาใจช่วยนะ…อย่างน้อย ๆ ผู้ถือหุ้นรายย่อยทั้ง 3,944 ราย จะได้หลุดพ้นจากหุ้นตัวนี้สักที…หลังจากติดบ่วงหุ้นมานานนมหลายปีดีดัก..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button