ITEL น่าเก็บ! ลุ้นกำไร Q2/61 นิวไฮรับรายได้ค่าเช่าโครงข่าย โบรกฯเคาะเป้า 5.40 บ.

ITEL น่าเก็บ! ลุ้นกำไร Q2/61 นิวไฮรับรายได้ค่าเช่าโครงข่าย โบรกฯเคาะเป้า 5.40 บ. ชี้ธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL หลังได้มีการประกาศผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1/61 ออกมามีกำไรสุทธิเติบโตอย่างโดดเด่นที่ระดับ 31.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68.75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 18.43 ล้านบาท

โดยปัจจัยที่ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องมาจากมีรายได้รวมเติบโตมาที่ระดับ 366.19 ล้านบาท จากปีก่อน 178.29 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นการขยายตัว 95% สาเหตุหลักมาจากรายได้การให้บริการติดตั้งโครงข่ายที่เติบโตอย่างโดดเด่นมาที่ 194.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 285% จากปีก่อนมีรายได้ 53.16 ล้านบาท

ด้านนายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ ITEL เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 40% ต่อปี จากการผลักดันสัดส่วนของรายได้ประจำให้เพิ่มขึ้นเป็น 70-80% ภายใน 3 ปี (62-64) จากปัจจุบันมีสัดส่วน 50% โดยจะมาจากจากการขยายฐานลูกค้าเช่าใช้โครงข่ายรวมถึงรักษาฐานลูกค้าเดิม

โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนลูกค้าเช่าใช้โครงข่ายมาจากกลุ่มผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคมเป็นหลักประมาณ 50% คาดว่าในอนาคตจะเพิ่มจำนวนลูกค้าในส่วนของสถาบันการเงิน รัฐวิสาหกิจ และสถานีโทรทัศน์ เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้ประจำให้เติบโตเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ ส่วนการเติบโตด้านอื่นๆ จะมาจากธุรกิจการติดตั้งโครงข่ายฯ และธุรกิจ Data Center

ขณะที่บริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ธุรกิจให้เช่าโครงข่ายเพิ่มขึ้นมาที่ 15-17% ภายในปี 64 ขึ้นสู่ Top 5 จากปัจจุบันมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 9-10% โดยปัจจุบันมูลค่าตลาดรวมในประเทศอยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท และตั้งเป้าอัตราการใช้งานโครงข่ายจะเพิ่มขึ้น 70-80% ภายในปี 64 จากปัจจุบันอยู่ที่ 27% และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 40% ในสิ้นปีนี้

“บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ในปี 61 เติบโตไม่ต่ำกว่า 40% จากปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 2,460 ล้านบาท คาดทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 700 ล้านบาท ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างรอเข้าประมูลโครงการศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ (USO Net) เฟส 2 ที่คาดว่าภาครัฐจะเปิดประมูลในเดือน ก.ค.นี้ และรอการเซ็นสัญญารับงานติดตั้ง CCTV ให้กับกลุ่มลูกค้าตะวันออกมูลค่างาน 80 ล้านบาท คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ในเดือน ก.ค.นี้ โดยสัญญาดังกล่าวจะเป็นสัญญาระยะยาว 3 ปี” นายณัฐดนัย กล่าว

นอกจากนี้บริษัทมองภาพรวมธุรกิจในปี 61 และในอนาคตว่า ธุรกิจ Data Service มีแนวโน้มที่ดีจากความครอบคลุมของโครงข่ายถึง 75 จังหวัด ทำให้โครงข่ายมีเสถียรภาพมากขึ้น สร้างความพึงพอใจและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ประกอบกับ การที่บริษัทสามารถพิสูจน์ตนเองจากโครงข่ายที่มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดจนสร้างความน่าเชื่อถือกับลูกค้า ทำให้บริษัทฯมีความได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้น

ส่วนธุรกิจ Data Center คาดรายได้จะเติบโตจากปี 60 เนื่องจากบริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันธุรกิจ Data Center มีจำนวน 2 แห่ง แห่งแรกได้สร้างเสร็จและให้บริการเต็มพื้นที่แล้ว มีรายได้ประจำเฉลี่ยปีละ 80 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน Data Center แห่งที่ 2 ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วเช่นกัน คาดหวังจะมีลูกค้าทยอยเข้ามาใช้บริการ 60% ในสิ้นปีนี้ และคาดว่าในปี 62 จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเต็มพื้นที่ 100% จะทำให้มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณปีละ 180 ล้านบาท ซึ่งเป็นอีกปัจจัยขับเคลื่อนผลประกอบการของบริษัทให้เติบโตสูงอย่างต่อเนื่องจากปี 60

ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น ITEL ในราคาเป้าหมายที่ 5.40 บาท เนื่องจากยังมีความมั่นใจต่อการเติบโตของธุรกิจให้เช่าโครงข่ายและดาต้าเซ็นเตอร์ในระยะยาว

ทั้งนี้ คาดการกำไรของ ITEL จะเติบโตต่อเนื่องและน่าจะได้เห็นการกลับมาทำจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่ไตรมาส 2/61 จากรายได้ให้เช่าโครงข่ายและดาต้าเซ็นเตอร์ที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนลูกค้าใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับผลของ Economy of scale ที่จะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของ 2 ธุรกิจนี้ขยายตัวจากปัจจุบันที่ 28.6% และ 27.6 ตามลำดับ

ขณะที่งานติดตั้งโครงข่ายคาดว่าจะได้งานต่อเนื่องจากโครงการเน็ตชายขอบราว 1.2 พันล้านบาท และงานติดตั้งโครงข่ายให้ลูกค้าภาคเอกชนอีกราว 300 ล้านบาทต่อปี และด้วยกำไรสุทธิไตรมาส 1/61 ที่คิดเป็น 20% ของคาดการณ์กำไรทั้งปีที่ 154 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 44% เทียบกับปีก่อน) ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีตที่กไรไตรมาส 1 จะคิดเป็น 18% ของกำไรทั้งปี

Back to top button