MFC ออกกองทุน RMF ถึง 15 มิ.ย.61

MFC ออกกองทุน RMF ถึง 15 มิ.ย.61


นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) เปิดเผยว่า เอ็มเอฟซีอยู่ระหว่างการเสนอขายครั้งแรกของกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ออมเกษียณทวีสุข เพื่อการเลี้ยงชีพ (M-TWSUK RMF) เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้สนใจลงทุนเพื่อใช้ในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน  สามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา และยังเปิดให้บริการซื้อหน่วยลงทุนแบบหักบัญชีสม่ำเสมอ เพื่อลดความผันผวนและช่วยลดต้นทุนต่อหน่วยได้อีกด้วย โดยจะเสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 15 มิ.ย.61

โดยกองทุนเปิด M-TWSUK RMF มีนโยบายการลงทุนในประเทศในตราสารทุน ตราสารหนี้ เงินฝาก โดยกองทุนจะลงทุนในหุ้น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่เกินร้อยละ 30 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

ทั้งนี้กองทุนอาจลงทุนในตราสารทุนที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่จะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured note) ตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (Non-investment grade) และตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated securities)

สำหรับความเห็นของสายบริหารกองทุนของเอ็มเอฟซีมองสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยปัจจุบันและแนวโน้ม โดยคาดการณ์ว่าแนวโน้ม SET Index ในช่วงที่เหลือของปี 2561 นี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบดัชนี 1,700-1,850 จุด

โดย Upside ที่สำคัญได้แก่ ความชัดเจนในการเลือกตั้ง ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องมายังความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจและนักลงทุนต่างชาติ แนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้นทั้งภาคการส่งออก การท่องเที่ยว และการบริโภคภายในประเทศ ราคาน้ำมันที่คาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับสูง จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และแนวโน้มอุปทานที่น่าจะยังคงมีจำกัด รวมถึงสภาพคล่องในประเทศที่อยู่ในระดับสูง สะท้อนจากการเติบโตของฐานเงินที่ทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง

โดยหลังจากที่ SET Index ปรับตัวลงมากว่า 5% นับตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้ล่าสุด Valuation ของตลาดหุ้นไทยเริ่มที่จะมีความน่าสนใจมากขึ้น (Forward PE ปี 62 ที่ 14.5 เท่า)

อย่างไรก็ตาม Upside ของดัชนียังคงถูกจำกัดด้วยแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ความน่าสนใจของตราสารหนี้มีมากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหุ้น

สำหรับปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามในช่วงถัดไปได้แก่ นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ 3 ครั้ง แต่หากเฟดเริ่มส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 4  มีโอกาสที่ Bond yield และเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะปรับตัวสูงขึ้น และจะส่งผลกดดันต่อกระแสเงินทุนต่างชาติ

ดังนั้นกองทุนเปิด M-TWSUK RMF เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินเพื่ออนาคตในวัยเกษียณ ผู้ที่ต้องการสิทธิประโยชน์ทางภาษี ลูกจ้างหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ไม่มีระบบบำเหน็จบำนาญ หรือลูกจ้างที่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือข้าราชการที่อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญที่ต้องการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม

โดยสามารถลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาวโดยคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนไปลงทุนซึ่งอาจปรับตัวสูงขึ้นหรือลดลงต่ำกว่ามูลค่าที่ลงทุนและทำให้ขาดทุนได้

Back to top button