DEMCO บวก 4 วันติด พุ่งต่อ 9% ตุนแบ็คล็อคแน่นกว่า 3 พันลบ.-เดินหน้าประมูลงานต่อเนื่อง

DEMCO บวก 4 วันติด พุ่งต่อ 9% ตุนแบ็คล็อคแน่นกว่า 3 พันลบ.-เดินหน้าประมูลงานต่อเนื่อง โดย ณ เวลา 16.18 น. ราคาอยู่ที่ 4.12 บาท บวก 0.34 บาท หรือ 8.99% สูงสุดที่ 4.16 บาท ต่ำสุดที่ 3.78 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 10.47 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้นบริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO ณ เวลา 16.18 น. ราคาอยู่ที่ 4.12 บาท บวก 0.34 บาท หรือ 8.99% สูงสุดที่ 4.16 บาท ต่ำสุดที่ 3.78 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 10.47 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 4 นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 3.66 บาท เมื่อวันที่ 10 ก.ค.61

นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ DEMCO เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังปีนี้บริษัทมีแผนจะเดินหน้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เตรียมความพร้อมยื่นประมูลงานติดตั้งสายส่ง และสถานีไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)  ซึ่งมีมูลค่าโครงการออกสู่ตลาดประมาณ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี จากมูลค่าโครงการรวมทั้งหมดที่จะเปิดประมูลราว 5-6 หมื่นล้านบาทภายในระยะเวลา 5 ปี

ขณะเดียวกัน มีงานที่คาดว่าจะประมูลเพิ่มเติมระหว่างปีนี้ เช่น งานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) มูลค่าประมาณ  400 – 500 ล้านบาท และยังมีงานระบบสายไฟเบอร์ออปติค ธุรกิจสื่อสาร มูลค่า 1,200 ล้านบาท และธุรกิจผลิตเสาโครงเหล็กปีนี้ คาดว่าจะได้งานอีกประมาณ 300 – 400 ล้านบาท

“การเดินหน้าประมูลงานต่อเนื่องจะทำให้งานในมือรอรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีแบ็กล็อคอยู่ที่ 3,717 ล้านบาท สามารถทยอยรับรู้รายได้ในระยะเวลา 2 ปี” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว

ขณะที่ธุรกิจต่างประเทศนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเสนอราคาโครงการสถานีไฟฟ้าย่อยในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ขณะที่โครงการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยใน สปป.ลาว คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2561  การขยายงานไปต่างประเทศเป็นไปตามนโยบายที่จะลดความเสี่ยงการพึ่งพารายได้จากงานรับเหมาในประเทศเพียงด้านเดียว

ส่วนธุรกิจพลังงานทดแทน ปัจจุบันบริษัทฯจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรปีละประมาณ 160 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีแผนการเข้าลงทุนธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มเติม แต่บริษัทจะเน้นงานรับเหมาก่อสร้างด้านวิศวกรรมไฟฟ้าทั้งสถานีไฟฟ้า สายส่งแรงสูง รวมถึงงานพลังงานทดแทนประเภท Private PPA เป็นหลัก

นอกจากนี้ นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการปรับปรุงฐานกังหันลมในโครงการห้วยบงที่เหลืออีก 26 ฐาน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการยื่นแบบและรออนุมัติ โดยคาดว่าจะเริ่มปรับปรุงได้ในเดือน มิ.ย. นี้ และจะใช้ระยะเวลาราว 135 วัน แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าการปรับปรุงในครั้งนี้ค่าใช้จ่ายจะไม่มากเท่าครั้งก่อน เนื่องจากบริษัทฯจะมีมูลค่าการสูญเสียจากการผลิตลดลง จากเดิมที่มีค่าการสูญเสียจากการผลิตทั้งหมด 81 ฐาน แต่ที่ผ่านมาบริษัทฯมีการปรับไปแล้ว 55 ฐาน ซึ่งค่าใช้จ่ายจะลดลงตามจำนวนการปรับปรุงฐานที่ลดลง

Back to top button