VGI กับมูลค่าเพิ่ม Kerry.!?

จากโจทย์ใหญ่บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI กับเป้าหมาย 3 ปี รายได้ 10,000 ล้านบาท ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง เพราะนั่นหมายถึงรายได้ที่ต้องเพิ่มขึ้นกว่า 190% จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4,000 ล้านบาท แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือการผลักดันรายได้จาก 4,000 ล้านบาท ขึ้นไป 10,000 ล้านบาท รายได้ที่เพิ่มขึ้นจะมาจากไหน..!? ธุรกิจอะไรจะเป็นเรือธง..!?


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

จากโจทย์ใหญ่บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI กับเป้าหมาย 3 ปี รายได้ 10,000 ล้านบาท ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง เพราะนั่นหมายถึงรายได้ที่ต้องเพิ่มขึ้นกว่า 190% จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4,000 ล้านบาท แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือการผลักดันรายได้จาก 4,000 ล้านบาท ขึ้นไป 10,000 ล้านบาท รายได้ที่เพิ่มขึ้นจะมาจากไหน..!? ธุรกิจอะไรจะเป็นเรือธง..!?

จุดเริ่มต้นจาก VGI มีโครงสร้างธุรกิจจากเดิมเป็น มีเดีย คอมปานีมาเป็น มาร์เก็ตติ้ง คอมปานี เพื่อก้าวสู่การเป็น Offline-to-Online Solution (O2O Solutions) ด้วยการให้บริการสื่อโฆษณาครบวงจร ที่มุ่งเน้นการเชื่อมโยงแพลตฟอร์มออฟไลน์และออนไลน์ด้วย 3 ธุรกิจหลัก คือ 1) ธุรกิจสื่อโฆษณา 2) ธุรกิจให้บริการชำระเงินของแรบบิท กรุ๊ป 3) ธุรกิจโลจิสติกส์ ด้วยการใช้ฐานข้อมูลที่มีอยู่มาเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมโยงธุรกิจเข้าด้วยกัน

โครงสร้างรายได้ VGI จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ นั่นคือรายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณา 50% ที่เหลือ 50% มาจากธุรกิจให้บริการชำระเงิน (แรบบิท) ธุรกิจโลจิสติกส์และอื่น ๆ จากปัจจุบันสัดส่วนรายได้ VGI มาจากธุรกิจสื่อโฆษณา 90-95% และอีก 5-10%มาจากรายได้อื่น ๆ

“ธุรกิจโลจิสติกส์” ถือเป็นเรือธงใหม่ที่จะเข้ามาสร้างมูลค่าเพิ่มในรูปรายได้และกำไร พร้อมสร้าง Synergy หรือเติมช่องว่างธุรกิจกับกลุ่ม VGI นั่นคือการเข้าซื้อหุ้นบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด หรือที่รู้จักกันในนาม Kerry Express สัดส่วน 23% มูลค่ากว่า 5,900 ล้านบาท แต่สิ่งที่ VGI มองว่า นอกเหนือจากเรื่องการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรแล้ว สิ่งที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ VGI  นั่นคือ…

1) การเข้ามาเติมเต็มโมเดลธุรกิจจากเดิมที่มีสื่อและ e-payment เพิ่มธุรกิจโลจิสติกส์ที่มีการเติบโตสูง

2) การใช้เครือข่าย Kerry กับการโปรโมตการชำระค่าสินค้าผ่าน Rabbit Line Pay (RLP)

3) การทำธุรกิจร่วมกันของ 2 บริษัท อาทิ แจกตัวอย่างสินค้า-โบรชัวร์สินค้า-คูปอง สู่กลุ่มลูกค้าเป้า หมายที่ใช้บริการ Kerry, การได้สิทธิโฆษณาบนรถขนส่งของ Kerry ที่มีอยู่กว่า 6,000 คัน และจุดรับส่งสินค้ากว่า 2,500 จุด ทั่วประเทศ

จากการตรวจสอบข้อมูลบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด พบว่า ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โครงสร้างทางการเงิน “มีการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกแบบก้าวกระโดด” โดยเฉพาะรายได้และกำไร กล่าวคือ ปี 2558 มีรายได้ 1,515.30 ล้านบาท กำไรสุทธิ 134.72 ล้านบาท ปี 2559 มีรายได้ 3,206.07 ล้านบาท กำไรสุทธิ 307.93 ล้านบาท ปี 2560 มีรายได้ 6,577.76 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 732.99 ล้านบาท

โดยผู้บริหาร VGI ระบุว่า “มูลค่าที่ซื้อหุ้น Kerry ดังกล่าว เป็นระดับราคาเหมาะสมเพราะธุรกิจมีทิศทางเติบโตอย่างมาก ตามการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ปัจจุบัน Kerry มีการจัดส่งสินค้ากว่า 8 แสนชิ้นต่อวัน โดยเชื่อว่าจะมาช่วยขยายฐานธุรกิจ VGI ให้ครบวงจรมากขึ้น”

เนื่องจากว่า VGI มีโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรงผ่านแพลตฟอร์มธุรกิจโลจิสติกส์ และสามารถรองรับเทรนด์ของตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ที่สำคัญมีฐานข้อมูลที่เชื่อมต่อแพลตฟอร์มต่าง ๆ ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

แน่นอนว่า Kerry อาจไม่ใช่ตัวเดียวที่จะสร้างรายได้ตามได้เป้าหมาย 10,000 ล้านบาท แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า Kerry คือฟันเฟืองสำคัญของ “ธุรกิจโลจิสติกส์” อันเป็นเรือธงของ VGI นั่นเอง..!!?

ทว่า VGI มีอีกช็อตที่ว่าด้วยเรื่อง “วิศวกรรมการเงิน” เดี๋ยวกลับมาว่ากันอีกที

…อิ อิ อิ…

สัดส่วนโครงสร้างรายได้ VGI

สื่อบนระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส                     57%

สื่อภายนอกอาคาร                                 24%

บริการด้านดิจิทัล                                  10%

สื่อในอาคารและอื่น ๆ                             9%

Back to top button