DCC พุ่งเกือบ 9% ขานรับผบห.เคาะเป้ารายได้ปีนี้โต 10%-แผนควบรวม RCI คืบหน้า

DCC พุ่งเกือบ 9% ขานรับผบห.เคาะเป้ารายได้ปีนี้โต 10% เล็งปรับราคาขายกระเบื้องเพิ่ม-แผนควบรวม RCI คืบหน้า คาดชัดเจนปี 62 ล่าสุด ณ เวลา 15.42  น. อยู่ที่ 2.26 บาท บวก 0.18 บาท หรือ 8.65% สูงสุดที่ 2.28 บาท ต่ำสุดที่ 2.08 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 73.13 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC ล่าสุด ณ เวลา 15.42  น. อยู่ที่ 2.26 บาท บวก 0.18 บาท หรือ 8.65% สูงสุดที่ 2.28 บาท ต่ำสุดที่ 2.08 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 73.13 ล้านบาท

โดย ราคาหุ้น DCC ปรับตัวขึ้นหลังบริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10% หลังบริษัทเตรียมปรับราคาขายกระเบื้องเพิ่มขึ้นและแนวโน้มการขายวัสดุก่อสร้างในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก ส่วนแผนควบรวมกับ บริษัท โรแยล ซีรามิค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ RCI คาดจะมีความชัดเจนมากขึ้นในปี 62

รวมทั้งบริษัทคาดว่าภายในปี 63 จะมีสัดส่วนรายได้จากการเช่าพื้นที่เป็น 300 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 2-3% จากปีนี้คาดมีรายได้ 10 ล้านบาท หลังจากล่าสุดเป็นพันธมิตรกับ บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ZIGA

นายมารุต แสงศาสตรา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและการขาย และกรรมการ DCC เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตได้ 10% จากปีก่อน 7,392.66 ล้านบาท ขณะที่รักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 15-16% เนื่องจากปีนี้บริษัทจะปรับราคาขายกระเบื้องเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 5-6% และแนวโน้มการขายวัสดุก่อสร้างในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก โดยเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัดที่บริษัทมีสาขาครอบคลุมกว่า 200 แห่ง ซึ่งพยายามจับกลุ่มลูกค้าระดับบนมากขึ้นด้วย เช่น งานโครงการ จากปกติเน้นกลุ่มตลาดซ่อมแซม

นอกจากนี้บริษัทเตรียมเงินลงทุนจากการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ (DCC-W1) ที่จะเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 8 พ.ค.62 จนถึง 8 พ.ค.64 คาดว่าจะได้เงินประมาณ 3,000 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุน 3 ส่วน คือ การปรับรูปแบบพื้นที่สาขาเดิมให้มีพื้นที่ให้เช่า

โดยในปีนี้จะเริ่มปรับรูปแบบ 21 สาขา ใช้งบลงทุนราว 15 ล้านบาท และในปี 62 จะเพิ่มขึ้นเป็น 61 สาขา นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเปิดสาขาใหม่ในรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์วัสดุก่อสร้าง โดยปีนี้คาดจะเริ่มก่อสร้างได้ 5 สาขา และภายในปี 63 จะมีสาขาแบบคอมมูนิตี้มอลล์ครบ 12 สาขา

พร้อมกันนั้นบริษัทยังมีการเจรจากับเซเว่น อีเลฟเว่น และ แฟมิลี่มาร์ท ให้มาเช่าพื้นที่การเปิดสาขา โดยบริษัทมีพื้นที่มีศักยภาพในการเปิดร้านสะดวกซื้อ 23 สาขา ซึ่งจะต้องสรุปรายใดรายหนึ่งภายในปี 62

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าภายในปี 63 จะมีสัดส่วนรายได้จากการเช่าพื้นที่เป็น 300 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 2-3% จากปีนี้คาดมีรายได้ 10 ล้านบาท หลังจากล่าสุดเป็นพันธมิตรกับ ZIGA ที่เข้ามาเช่าพื้นที่เพื่อนำสินค้าของ ZIGA มาขายในสาขาของ DCC เบื้องต้น 10 สาขาในภาคตะวันออก

นอกจากนี้ ในปี 62 บริษัทจะใช้งบลงทุน 600 ล้านบาทเพื่อขยายอาคารและเพิ่มกำลังการผลิต จากปัจจุบันมีกำลังผลิตรวม 71 ล้านตารางเมตรต่อปี จะเพิ่มเป็น 80 ล้านตารางเมตรต่อปี คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จไตรมาส 3/62 ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภายการผลิตมากขึ้น

ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนจะควบรวมกิจการกับ RCI หลังจาก DCC เข้าถือหุ้นใหญ่ใน RCI สัดส่วน 17% คาดว่าจะเห็นความชัดเจนของแผนงานภายในปี 62 โดย RCI เป็นผู้นำด้านกระเบื้องบุผนัง ซึ่งมีตลาดที่ชัดเจน และ DCC จะเข้าไปช่วยเรื่อง Know How ของธุรกิจเพื่อต่อยอดในอนาคต

ขณะที่บริษัทเริ่มเจรจากับนักลงทุนสถาบันมากขึ้นหลังจากไม่ได้ออกไปให้ข้อมูลในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ขณะนี้บริษัทเริ่มมีศักยภาพ และมีทิศทางการลงทุนที่น่าสนใจ โดยช่วงที่ผ่านมาได้มีการเจรจากับนักลงทุนสถาบันทั้งสหรัฐฯ และยุโรป และวันที่ 14 ส.ค. นี้จะเดินทางไปโรดโชว์ร่วมกับ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) พบ 12 กองทุน โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนสถาบันไปที่ 18-19% ใกล้เคียงในอดีต จากปัจจุบันอยู่ที่ 13%

Back to top button