ASAP ส่งซิกครึ่งปีหลังแจ่ม เล็งอัพรายได้ปีนี้โต30% โบรกฯเคาะเป้า7.50บ. อัพไซด์สูงปรี๊ด!

ASAP ส่งซิกครึ่งปีหลังแจ่ม เล็งอัพรายได้ปีนี้โต 30% โบรกฯเคาะเป้า 7.50 บ. อัพไซด์พุ่งปรี๊ด!


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์ หุ้น บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASAP พบว่า บริษัทเตรียมปรับเป้ารายได้ปีนี้เพิ่มเป็น 30% จากเดิม 20% หลังอุตสาหกรรมรถยนต์ให้เช่าในตลาดประเทศไทยในช่วงครึ่งปีหลังยังขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง

โดย นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASAP เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ให้เช่าในตลาดประเทศไทยในช่วงครึ่งปีหลังยังขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทเตรียมปรับเป้าหมายการเติบโตของผลการดำเนินงานในปีนี้จากเดิม 20% เพิ่มขึ้นเป็น 30%

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนเพิ่มพอร์ตรถยนต์ใหม่ในปีนี้เพิ่มเป็น 5,000 คัน จากเดิมที่มี 4,000 คัน รองรับการเติบโตของตลาดรถยนต์ให้เช่าระยะยาวที่ ASAP ประสบความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้าองค์กรใหม่ๆ เพิ่มเติม รวมถึงรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่ารายชั่วโมงภายใต้แบรนด์ asap GO

นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเปิดให้บริการ asap Auto Park เฟส 1 ที่ถนนบางนา-ตราด ซึ่งเป็นจุดจอดรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและจุดจำหน่ายรถยนต์ครบสัญญาเช่าที่คาดว่าในครึ่งปีหลังจะมีกว่า 700-800 คันที่เข้ามาช่วยผลักดันการเติบโตได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เดิม

ขณะเดียวกัน บริษัทได้เปิดขายแฟรนไชส์ให้แก่นักลงทุนที่สนใจเข้ามาลงทุนเพื่อขยายไปยังตามหัวเมืองต่างจังหวัด โดยเป็นโมเดลการขายแฟรนไชส์ที่แตกต่างจากคู่แข่ง โดย ASAP จะให้การสนับสนุนรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ครบสัญญาเช่าเพื่อจำหน่ายเป็นรถยนต์มือสอง ทำให้ผู้ที่ลงทุนซื้อแฟรนไชส์ asap Auto Park ไม่ต้องใช้เงินลงทุนในตัวสินค้า ซึ่งจะส่งผลดีต่อการตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์เพื่อไปขยายสาขาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

 

ขณะที่ นักวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ ซื้อ ASAP ที่ราคาเป้าหมาย 7.50 บาทต่อหุ้น อิงวิธี DCF ที่ WACC 7% และ Terminal growth 3% จากการขยายตัวของกำไรสุทธิปี 61-63 ที่ CAGR 17% โดยมองว่าราคาหุ้นได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดจากปัจจัยลบต่างๆ (เช่น อัตรากำไรขั้นต้นของรถเช่าที่มีแนวโน้มลดลง และการบริหารจัดการรถครบอายุสัญญาที่ยังไม่ชัดเจน) ไปมากแล้ว และปัจจุบันราคาหุ้นเทรดที่ 29 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีต

โดยยังคงประมาณการกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติที่ 150 ล้านบาท โต 66% เทียบจากปีก่อน โดยได้แรงหนุนจากจำนวนรถเช่ารวมที่เพิ่มขึ้นสูงอยู่ที่ 1.7 หมื่นคัน (คิดเป็นรถเช่าระยะยาวอยู่ที่ 1.6 หมื่นคัน) อย่างไรก็ตามจากการที่บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากผู้เช่ารายใหญ่จำนวนน้อยราย (ณ ครึ่งปีแรกมีจำนวน 1 รายคิดเป็นสัดส่วน 11%ของรายได้ค่าเช่า) ส่งผลให้มองว่าบริษัทจะมีอัตรากำไรขั้นต้นจากการให้เช่ารถลดลงอยู่ที่ 24% จากปีก่อนที่ 24.2%

ทั้งนี้ ราคาหุ้น ASAP ปิดตลาดวานนี้ (15 ส.ค.) อยู่ที่ 5.90 บาท ลบ 0.35 บาท หรือ 5.60% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 28.39 ล้านบาท จึงยังคงมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมาย 7.50 บาท อยู่ 27.12%

Back to top button