TLUXE ตั้ง “ณสุ จันทร์สม” นั่งเก้าอี้ CEO ลุยขับเคลื่อนธุรกิจดันผลงานปีนี้เทิร์นอะราวด์

TLUXE ตั้ง “ณสุ จันทร์สม” นั่งเก้าอี้ CEO ลุยขับเคลื่อนธุรกิจดันผลงานปีนี้เทิร์นอะราวด์ พร้อมเคาะเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น "พีพี ไพร์ม"


นายณสุ จันทร์สม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TLUXE เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติแต่งตั้งตนเข้ามารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารเพื่อเสริมศักยภาพของบริษัท และสร้างโอกาสการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ หลังจากมีการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ และเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ เป็น บริษัท พีพี ไพร์ม จำกัด (มหาชน) เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยจะมีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 19 ก.ย.เพื่อขออนุมัติชื่อใหม่ดังกล่าว

สำหรับภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากฝ่ายบริหาร คือ การขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัทฯ ที่มีด้วยกัน 3 ธุรกิจ คือ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำ อาหารสัตว์เลี้ยง (OEM) ซึ่งยังคงเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลัก และมีการเติบโตอย่างโดดเด่นต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลา 32 ปี ซึ่งในปีนี้มีการปรับกลยุทธ์ด้านการตลาด โดยมุ่งเน้นที่อาหารกุ้งเกรดพรีเมี่ยม ที่มีคุณสมบัติเร่งการเจริญเติบโต และต้านทานโรคสูง ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มมากขึ้นชัดเจน ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายจากธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ สัตว์เลี้ยง ในปีนี้แตะระดับ 2,000 ล้านบาท

ส่วนธุรกิจที่ 2 คือ ธุรกิจผลิตไฟฟ้า Geothermal และพลังงานลม (Wind Energy) ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งโจทย์จากฝ่ายบริหาร คือการดำเนินการขายไฟฟ้าในส่วนของโรงไฟฟ้า Geothermal ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 9 โครงการ และเตรียมเสนอให้คณะกรรมการบริษัทอนุมัติการลงทุนเพิ่มอีก 22 โครงการ ตามแผนการลงทุนเดิมที่วางไว้ทั้งหมด 46 โครงการให้เป็นไปตามเป้าหมาย พร้อมทั้งบันทึกรายได้จากการขายโรงไฟฟ้า Geothermal ที่ได้ดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้ว 15 โครงการ มูลค่า 1,400 ล้านบาท

ด้านการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม (Wind Energy) ขนาดเล็ก 20 กิโลวัตต์ ใน Hokkaido และ Aomori ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้มีการขยายการลงทุนตามแผนที่วางไว้ จำนวน 27 โครงการ ได้รับสิทธิในการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับ Hokkaido และ Tohoku Electric ในราคา 59 เยน ต่อกิโลวัตต์  เป็นเวลา 20  ปี ในรูปแบบ FIT ปัจจุบันได้มีการดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จ 7 โครงการ และในส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างทยอยดำเนินการติดตั้ง ซึ่งบริษัทเชื่อว่าเมื่อดำเนินการได้ตามแผนทั้งหมด จะส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นชัดเจนตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป

สำหรับธุรกิจที่ 3 คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อาคารที่พักอาศัยประเภทห้องชุดคอนโดมิเนียม ในโครงการริเวอร์ไซด์ ที่ตั้งอยู่บนทำเลทองริมแม่น้ำ ใจกลางเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม โดยโครงการฯ ดังกล่าวใช้งบลงทุนเพียง 980 ล้านบาท และจะเปิดขายในปลายเดือน ก.ย.61 นี้ มั่นใจว่าจะสามารถปิดการขายห้องชุดทั้งหมดได้ในเวลาที่รวดเร็วมาก และคาดว่าจะรับรู้รายได้ภายในปี 62

ขณะที่ความคืบหน้าของการลงทุนในโครงการริเวอร์ไซด์ว่าล่าสุดทางบอร์ดได้มีมติการจัดตั้งบริษัทย่อยของบริษัทในประเทศสิงคโปร์ ภายใต้ชื่อ P PRIME SINGAPORE PTE. LTD. ซึ่งบริษัทถือหุ้น 100% ในบริษัทดังกล่าว เพื่อเข้าทำธุรกรรมการลงทุนในโครงการริเวอร์ไซด์กับบริษัทย่อยของ ริช พาร์ทเนอร์ส ในประเทศสิงคโปร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“จากนี้ต่อไปเราจะเดินหน้าอย่างเต็มกำลังเพื่อขับเคลื่อนทั้ง 3 ธุรกิจให้มีการเติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ และสัตว์เลี้ยง จะเริ่มเห็นผลการดำเนินงาน Turnaround ตั้งแต่ปีนี้ และการรับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานในประเทศญี่ปุ่น และธุรกิจอสังหาในเวียดนามในปีหน้า ซึ่งเชื่อว่าจากปัจจัยที่กล่าวมา จะเป็นตัวส่งเสริมให้ทั้งรายได้ และกำไรขั้นต้นของบริษัทฯ เติบโตแบบก้าวกระโดดได้ใน 2 ปีนี้” นายณสุ กล่าว

ส่วนผลประกอบการงวดไตรมาส 2/61 บริษัทมีรายได้ 541.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.67% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 452.19 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิลดลงมาอยู่ที่ระดับ 0.92 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 7.96 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ ขาดทุนลดลง 7.04 ล้านบาท และมีรายได้รวมในครึ่งปีแรก 976.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 869.12 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 24.42 ล้านบาท

นอกจากนี้ รายได้ muj เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาจากธุรกิจอาหารสัตว์น้ำและอาหารสัตว์เลี้ยงมียอดขายเพิ่มขึ้น 37.98% และในด้านอาหารสัตว์เลี้ยง (OEM) ทั้งโรงงานเพชรบุรีและโรงงานสงขลา มีปริมาณการรับจ้างผลิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน คิดเป็น 19.49% ส่งผลให้บริษัทมีรายได้รวมในส่วนของธุรกิจอาหารสัตว์เท่ากับ 496.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.75% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน รวมทั้งการรับรู้รายได้จากธุรกิจผลิตไฟฟ้า Geothermal Energy ในประเทศญี่ปุ่น เต็มไตรมาสทั้ง 15 โครงการ จำนวน 21.63 ล้านบาท

Back to top button