CBG พุ่ง 3% นิวไฮรอบ 2 เดือน สวนผบห.หั่นเป้ายอดขายปีนี้ โบรกฯแนะขาย ปรับกำไรปี 62 ลดลง

CBG พุ่ง 3% นิวไฮรอบ 2 เดือน สวนผบห.หั่นเป้ายอดขายปีนี้ โบรกฯแนะขาย ปรับกำไรปี 62 ลดลง ล่าสุด ณ เวลา 15.42 น. อยู่ที่ 53.50 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 2.88% สูงสุดที่ 54.75 บาท ต่ำสุดที่ 50.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 347.19 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG ล่าสุด ณ เวลา 15.42 น. อยู่ที่ 53.50 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 2.88% สูงสุดที่ 54.75 บาท ต่ำสุดที่ 50.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 347.19 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้น CBG ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 2 วันติด นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ 49.75 บาท เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2561 และยังปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 2 เดือน นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ 53.50 บาท เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2561 แม้ว่าผู้บริหารจะประกาศปรับลดเป้ายอดขายปี 61 ลดก็ตาม

โดย นายพงศานติ์ คล่องวัฒนกิจ ประธานผู้บริหารฝ่ายการเงิน CBG เปิดเผยว่า ยอดขายในปี 61 จะเติบโตราว 15-20% จากปีก่อน จากในช่วงต้นปีตั้งเป้าหมายไว้ที่ระดับ 25% เนื่องจากไตรมาส 1/61 ยอดขายอ่อนตัวลง ขณะที่ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มชูกำลังอาจเติบโตได้ไม่มาก แต่คาดว่าบริษัทจะยังเติบโตได้ดีกว่าภาพรวมตลาด

ขณะที่ บล.เอเชีย เวลท์ ระบุว่า ผิดหวังอย่างแรงกับยอดขายในจีนและอังกฤษที่พลาดเป้าหมายจากที่ผู้บริหารบริษัทให้ไว้อย่างมาก อีกทั้งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศก็เติบโตน้อยในช่วงครึ่งปีแรก แม้ตัวเลขเศรษฐกิจไทยจะออกมาดี GDP Growth ไตรมาส 1/61 และ 2/61 เติบโตสูง 4.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน  และ 4.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ แต่ภาคการบริโภคในประเทศยังเห็นสัญญาณการเติบโตน้อย และไม่ได้รับผลบวกจากเศรษฐกิจในภาพรวมดีขึ้น เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำอย่างมากเป็นเวลาต่อเนื่อง กระทบอำนาจซื้อของประชาชนระดับรากหญ้าในวงกว้าง

โดยเฉพาะเศรษฐกิจในต่างจังหวัด ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักกลุ่มหนึ่งของสินค้าเครื่องดื่มที่ขายตามร้านสะดวกซื้อ เห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจระดับรากหญ้าอ่อนแอต่ออีกในช่วงครึ่งปีหลัง เพราะยังไร้สัญญาณการฟื้นตัวของสินค้าเกษตร ซึ่งไม่เพียงแต่สินค้าเกษตรของไทยเท่านั้นที่ราคาตกต่ำ พบว่าสินค้าเกษตรหลายชนิดของประเทศสำคัญ ได้แก่ สหรัฐฯ และจีน ก็ราคาตกต่ำด้วย ทั้งถั่วเหลือง ข้าวโพด กระเทียม และอื่น ๆ คาดว่าเป็นเพราะปีนี้ผลผลิตดี ไม่มีภัยธรรมชาติรุนแรง ซัพลลายสินค้าล้นตลาด และยังมีเหตุการณ์เรื่องสงครามการค้ามาบั่นทอนความมั่นใจในการผลิตของผู้ประกอบการโรงงานด้วย

ดังนั้น จึงแนะนำขายหุ้น CBG ออกไปก่อน รอสัญญาณความชัดเจนจากการเติบโตของยอดขายในอังกฤษและจีน ซึ่งคาดว่าต้องให้เวลาอีกประมาณ 2 ปีจากนี้ไป จึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2561 ลงจาก 1.4 พันล้านบาท เป็น 1.0 พันล้านบาท และปรับลดกำไรสุทธิปี 2562 ลงจาก 2.5 พันล้านบาท เป็น 1.5 พันล้านบาท ปรับลดคำแนะนำจากซื้อ เป็นขาย ปรับราคาเป้าหมายจาก 89 บาท เป็น 36 บาท อิงค่า PER ที่ 22 เท่าของปี 2562

Back to top button