10 หุ้นราคาพุ่งแรงเดือนสิงหาคม

เส้นทางนักลงทุน

เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นไทยสามารถปรับตัวขึ้นมายืนบริเวณ 1,720 จุด จากการค่อย ๆ ไต่ระดับมาจากบริเวณ 1,700 จุด ในช่วงสิ้นสุดเดือนกรกฎาคม ด้วยคงเป็นแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่ และขนาดกลางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับหุ้นในกลุ่มตลาด SET ราคาหุ้นปรับตัวพุ่งแรง  10 ตัวหลัก ได้แก่ BEAUTY, CNT, SVI, PACE, III, THCOM, PF, PRM, DCC และ WICE เป็นต้น โดยราคาหุ้นสามารถปรับตัวขึ้นกว่า 15%

บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY โดยวันที่  31 ส.ค. 2561 ราคาหุ้นปิด 11.30 บาท ขณะที่วันที่ 31 ก.ค. 2561 ราคาหุ้นปิด 7.80 บาท บวกไป 3.50 บาท หรือขึ้นไป 44.87% ซึ่งเป็นการเข้าเก็งกำไรหลังผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2 อีกทั้งคาดแนวโน้มกำไรสุทธิในครึ่งหลังปี 2561 จะกลับมาเติบโตโดดเด่น

บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CNT โดยวันที่  31 ส.ค. 2561 ราคาหุ้นปิด 2.90 บาท ขณะที่วันที่ 31 ก.ค. 2561 ราคาหุ้นปิด 2.02 บาท บวกไป 0.88 บาท หรือขึ้นไป 43.56%  ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวขึ้นตอบรับการกำหนดเซ็นรับงานสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่สนามบินกระบี่-ขอนแก่นเมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2561 ที่ผ่านมา พร้อมกับคาดการณ์ว่าในช่วงครึ่งหลังปีนี้ผลประกอบการจะกลับมามีกำไรจากช่วงครึ่งแรกปีนี้มีผลขาดทุนจากปัจจุบันงานในมือ (Backlog) จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท มีสัดส่วนงานภาครัฐและเอกชน 50:50 สามารถรับรู้รายได้ 2-3 ปี

บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI โดยวันที่  31 ส.ค. 2561 ราคาหุ้นปิด 5.80 บาท ขณะที่วันที่ 31 ก.ค. 2561 ราคาหุ้นปิด 4.14 บาท บวกไป 1.66 บาท หรือขึ้นไป 40.10% เป็นผลมาจากอานิสงส์ของผลกำไรที่แข็งแกร่งในไตรมาส 2/2561 ประกอบกับคาดกำไรในครึ่งปีหลังจะยังคงเติบโตต่อเนื่องจากยอดขายกลุ่มสินค้าในอุตสาหกรรมและสื่อสารที่แข็งแกร่ง และแนวโน้ม GPM ที่เพิ่มขึ้นจากเงินบาทอ่อนค่า

บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE โดยวันที่  31 ส.ค. 2561 ราคาหุ้นปิด 0.68 บาท ขณะที่วันที่ 31 ก.ค. 2561 ราคาหุ้นปิด 0.49 บาท บวกไป 0.19 บาท หรือขึ้นไป 38.78% ซึ่งถือเป็นการตอบรับหลังขายหุ้น PP 500 ล้านหุ้นให้กองทุนตปท.-ขายสิทธิแฟรนไชส์  Dean&Deluca ในจีนให้เครือซีพี

บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III โดยวันที่  31 ส.ค. 2561 ราคาหุ้นปิด 6.35 บาท ขณะที่วันที่ 31 ก.ค. 2561 ราคาหุ้นปิด 4.82 บาท บวกไป 1.53 บาท หรือขึ้นไป 31.74% มองว่าเป็นการเข้าเก็งกำไรว่าแนวโน้มครึ่งหลังปี 2561 จะดีกว่าครึ่งปีแรก 2561 เนื่องจาก 1) ไตรมาส 3-4 เป็น High Season ของธุรกิจ Air Freight และ Sea Freight  2) ได้ประโยชน์จากการเพิ่มเที่ยวบินทั้งเส้นทางเดิม และเส้นทางใหม่ของ AirAsia และ AirAsiaX  3) บริษัทคาดว่าจะสามารถเจรจาสัญญากับทางไปรษณีย์ไทยได้ภายในไตรมาส 4/2561 โดยมีความพร้อมที่จะเริ่มบริการทันทีหลังได้อนุมัติจากท่าอากาศยานไทย และ 4) เริ่มรับรู้รายได้จากการลงทุนใน DG Packaging ในไตรมาส 3/2561 (Equity-Method)

บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM โดยวันที่  31 ส.ค. 2561 ราคาหุ้นปิด 10.10 บาท ขณะที่วันที่ 31 ก.ค. 2561 ราคาหุ้นปิด 8.30 บาท บวกไป 1.80 บาท หรือขึ้นไป 21.69% ซึ่งเป็นผลจากการเข้าเก็งกำไรหลังจากผลการดำเนินไตรมาส 2/2561 ออกมาอย่างก้าวกระโดด

บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF โดยวันที่  31 ส.ค. 2561 ราคาหุ้นปิด 1.15 บาท ขณะที่วันที่ 31 ก.ค. 2561 ราคาหุ้นปิด 0.95 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 21.05% รับอานิสงส์จากผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2561 ที่มีกำไรเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งรายได้และยอดขาย (Presale) เนื่องจากมีการเปิดตัวโครงการมากขึ้น ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้นตามการลงทุนที่ชัดเจนของภาครัฐ ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์

บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ  PRM  โดยวันที่  31 ส.ค. 2561 ราคาหุ้นปิด 8 บาท ขณะที่วันที่ 31 ก.ค. 2561 ราคาหุ้นปิด 6.65 บาท บวกไป 1.35 บาท หรือขึ้นไป 20.30% รับอานิสงส์จากผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2561 มีกำไรเพิ่มขึ้น และยังเชื่อครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่อง หลังเข้าซื้อ Big Sea หนุนศักยภาพการดำเนินงาน

บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC โดยวันที่  31 ส.ค. 2561 ราคาหุ้นปิด 2.62 บาท ขณะที่วันที่ 31 ก.ค. 2561 ราคาหุ้นปิด 2.18 บาท บวกไป 0.44 บาท หรือขึ้นไป 20.18% ด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้น คาดจากการเก็งกำไรหลังมีความคืบหน้าในการทำสัญญาให้เช่า Outlet กับ 5 บริษัท สัญญา 3 ปี เริ่มรับรู้ปี 2562 เพื่อจะเป็นการหนุนให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น

บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน)  หรือ  WICE โดยวันที่  31 ส.ค. 2561 ราคาหุ้นปิด 4.82 บาท ขณะที่วันที่ 31 ก.ค. 2561 ราคาหุ้นปิด 4.06 บาท บวกไป 0.76 บาท หรือขึ้นไป 18.72% รับอานิสงส์จากผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2561 มีกำไรเพิ่มขึ้น นอกจากนี้เชื่อว่าครึ่งหลังปีนี้จะขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มการนำเข้าและส่งออกในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ มีปริมาณงานเพิ่มมากขึ้น และไตรมาส 3 เป็นช่วงเริ่มเข้าสู่ไฮซีซั่นซึ่งจะยาวต่อเนื่องจนถึงปลายปี

สำหรับหุ้นที่นำเสนอข้างต้นเป็นการหยิบยกในส่วนของราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงช่วงเดือนสิงหาคม แต่อย่างไรก็ตามในอนาคตราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้เนื่องจากยังมีปัจจัยหนุนนั่นเอง

…