สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 18 ต.ค. 2561


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากปัจจัยลบทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งรวมถึงการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ความความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบีย ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และปัญหาการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลอิตาลี โดยความวิตกกังวลในเรื่องเหล่านี้ได้ฉุดหุ้นกลุ่มต่างๆร่วงลงเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มอุตสาหกรรม และกลุ่มสินค้าผู้บริโภค

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,379.45 จุด ร่วงลง 327.23 จุด หรือ -1.27% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,768.78 จุด ลดลง 40.43 จุด หรือ -1.44% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,485.14 จุด ลดลง 157.56 จุด หรือ -2.06%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ดิ่งลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบีย จากกรณีการหายตัวไปอย่างลึกลับของนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวชาวซาอุฯ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.5% ปิดที่ 361.67 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,589.21 จุด ลดลง 125.82 จุด หรือ -1.07% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,026.99 จุด ลดลง 27.61 จุด หรือ -0.39% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,116.79 จุด ลดลง 28.15 จุด หรือ -0.55%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ร่วงลงอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดิ่งลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างอังกฤษ และสหภาพยุโรป (EU) ในกรณีการถอนตัวของอังกฤษจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (Brexit)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,026.99 จุด ลดลง 27.61 จุด หรือ -0.39%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่พุ่งขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักลงทุนจับตาสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบีย รวมทั้งจับตาผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.10 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 68.65 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 76 เซนต์ หรือเกือบ 1% ปิดที่ 79.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบียยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.7 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 1,230.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 5.9 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 14.604 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.  ลดลง 8.9 ดอลลาร์ หรือ 1.06% ปิดที่ 831.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.90 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1064.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในเดือนธ.ค.ปีนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3078 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3012 ดอลลาร์แคนาดา และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9954 ฟรังก์ จากระดับ 0.9949 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 112.18 เยน จากระดับ 112.48 เยน

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1464 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1506 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3032 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3121 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7105 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7116 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button