SET ช้ำเลือด! ปิดเช้าวูบ 14.30จุด ตาม”ดาวน์โจนส์” หลังดิ่งหนักกว่า300จุด รับมรสุมหลายด้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย SET ปิดเช้านี้ (19 ต.ค.) ระดับ 1,668.61 จุด ลดลง 14.30 จุด หรือ 0.85% มูลค่าการซื้อขาย 2.55 หมื่นลบ. ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์นิวยอร์กปิดวานนี้ (18 ต.ค.) ที่ระดับ 25,379.45 จุด ลบ 327.23 จุด หรือ 1.27%

10 หุ้นกดดัชนีเช้านี้

ด้าน นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบกันทั่วหน้า จากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง และวิตกกังวลความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากที่สหรัฐฯระบุว่า จีนทำการค้าอย่างไม่ยุติธรรม รวมถึงราคาน้ำมันก็ปรับตัวลงด้วย

สำหรับสัปดาห์หน้าจะต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่วนบ้านเราก็ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/61 ขอบกลุ่มพลังงาน

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย นายชัยยศ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังติดลบ เนื่องจากยังไม่เห็นปัจจัยบวกอะไรเข้ามา พร้อมให้แนวรับ 1,665 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680 จุด

 

อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากปัจจัยลบทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งรวมถึงการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ความความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบีย ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และปัญหาการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลอิตาลี โดยความวิตกกังวลในเรื่องเหล่านี้ได้ฉุดหุ้นกลุ่มต่างๆร่วงลงเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มอุตสาหกรรม และกลุ่มสินค้าผู้บริโภค

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

CPALL  มูลค่าการซื้อขาย 1,880.61 ล้านบาท ปิดที่ 65.75 บาท ลดลง 0.75 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,426.41 ล้านบาท ปิดที่ 61 บาท ลดลง 1 บาท

OSP  มูลค่าการซื้อขาย 1,335.11 ล้านบาท ปิดที่ 26 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

MTC  มูลค่าการซื้อขาย 865.62 ล้านบาท ปิดที่ 51.75 บาท ลดลง 0.75 บาท

KBANK  มูลค่าการซื้อขาย 844.73 ล้านบาท ปิดที่ 204 บาท ลดลง 2 บาท