สังคมข่าวหุ้น

นิวส์เวฟ

* ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,669.09 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 30.58 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 5.4 หมื่นล้านบาท

* หุ้น BEM วันนี้สปอตไลต์ฉายแสงใส่เต็มที่ เพราะล่าสุดประกาศข่าวดีออกมาช่วงเย็นหลังปิดตลาดว่า คณะอนุญาโตตุลาการชี้ขาดให้ กทพ.ชดใช้ค่าเสียหายสูงถึง 9,091 ล้านบาท พร้อมจ่ายดอกเบี้ยผิดนัดตามสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 อีกจำนวน 7,909 ล้านบาท ดังนั้น ถึงแม้เมื่อวานหุ้นจะปิดบวกแรงไปแล้วกว่า 3% มาอยู่ที่ 8.50 บาท แต่ด้วยข่าวดีชิ้นใหญ่นี้จึงมีแนวโน้มสูงที่ช่วยดันให้หุ้นวิ่งไปต่ออีกได้ เรียกได้ว่า BEM ขณะนี้มีข่าวดีตุนไว้ในมือแน่นจนแทบล้น ซึ่งนี่ยังไม่รวมกรณีกลางเดือน พ.ย.นี้ มีลุ้นประมูลไฮสปีดเทรนเชื่อมสนามบินหรืองบไตรมาส 3 ที่มีสิทธิฟันกำไรโตกระฉูดอีกนะ งานนี้ คนที่มีหุ้น BEM อยู่ในมือแล้วถือต่อยาว ๆ รอรับกำไรได้สบายเลย

* หุ้น OSP-PR9 ในที่สุดทำราคาปิดยืนเหนือจองได้แล้วทั้งคู่ โดยในฝั่งของ OSP ที่จริงตอนเข้าเทรดวันแรกเคยเหนือจองไปแล้ว แต่หลังจากนั้นเจอภาวะตลาดหุ้นไทยดิ่งหนัก (แบบสุด ๆ) จึงกดดันให้หุ้นลดลงแรงจนหลุดต่ำราคาจอง 25 บาท แต่สุดท้ายเมื่อตลาดหุ้นไทยหวนคืนสู่ภาวะปกติ บวกกับพื้นฐาน OSP ที่อยู่ในเกณฑ์แข็งแกร่งมาก จึงผลักดันให้หุ้นทยอยฟื้นตัวและล่าสุดกลับมาเหนือจองที่ 25.75 บาท

* ส่วน PR9 เข้าเทรดครั้งแรกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จบการซื้อขายวันแรกทำราคาปิดเสมอตัวที่ฐานไอพีโอ 11.60 บาท แต่พอภาพรวมตลาดเริ่มเข้าใจถึงพื้นฐานหุ้น PR9 มากขึ้น จึงช่วยดึงดูดแรงซื้อเข้ามาหนาแน่นและปิดบวกเหนือจองได้เป็นครั้งแรกที่ระดับ 11.80 บาท สำหรับ PR9 เป็นหุ้นโรงพยาบาลที่เลือกใช้กลยุทธ์ยึดพื้นที่ย่านพระราม 9 เป็น “ป้อมปราการหลัก” สร้างการเติบโตทั้งในปัจจุบันและอนาคต สวนทางกับนโยบายคู่แข่งที่มุ่งเน้นขยายสาขาบริการเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย

* สาเหตุที่ PR9 เลือกใช้วิธีนี้เพราะบริษัทต้องการคุมเข้มมาตรฐานให้บริการต้องดีที่สุด จึงไม่เกิดปัญหาความแตกต่างว่า ทำไมที่นั่นดีแต่ที่นี่กลับไม่ดี (ทั้งที่เป็นแบรนด์เดียวกัน) ที่สำคัญทำเลย่านพระราม 9 ถือเป็นทำเลทองที่มีทั้งกลุ่มลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติหนาแน่น มีห้างสรรพสินค้า ออฟฟิศ คอนโดมิเนียม และการเดินทางที่สะดวก จึงทำให้บริษัทยังมีช่องว่างที่จะเจาะกลุ่มเป้าหมายสร้างการเติบโตอีกมากโดยไม่จำเป็นต้องขยายสาขาเพิ่มเติม

* ไหน ๆ ก็กล่าวมาถึงหุ้นโรงพยาบาลกันแล้ว ขอฝากให้จับตากันอีกตัว คือ BCH เพราะมีประเด็นซ่อนอยู่ที่น่าติดตามกับกรณี NVDR ไล่เข้าเก็บหุ้นต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดแว่วมาว่า สัดส่วนการถือหุ้น NVDR ในขณะนี้สูงมากสุดในรอบหลายปีกันไปแล้ว และสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวหุ้น BCH ในกระดานที่มีแรงซื้อขายเข้ามาหนาแน่นหลายร้อยล้านบาทต่อวัน โดยสาเหตุที่หุ้น BCH กำลังเนื้อหอมแบบสุด ๆ เป็นผลมาจากพื้นฐานธุรกิจบริษัทสามารถทำกำไรเติบโตได้ดีกว่าตลาดคาด แล้วยังมีสตอรี่บวกโดดเด่นมากกว่าหุ้น BDMS และ BH นั่นเอง

* ส่งท้ายด้วยหุ้น TIGER เป็นหุ้นไอพีโออีกรายที่มีลุ้นทำราคากลับสู่ฐานไอพีโอได้อีกครั้ง เมื่อวานทำราคาปิดที่ 3.60 บาท จึงเท่ากับเริ่มเฉียดใกล้ราคาไอพีโอ 3.65 บาทกันแล้ว ที่จริง TIGER เป็นหุ้นอีกรายที่มีปัจจัยบวกน่าลงทุนหลายประเด็นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น P/E หุ้นที่อยู่เพียงแค่ 17 เท่า แล้วยังเป็นบริษัทที่มีแบ็กล็อกตุนไว้ในมือกว่า 600 ล้านบาท ทำให้การันตีงบปี 2561 จะเติบโตได้โดดเด่น รวมถึงภาพรวมอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างที่ใส่เกียร์เดินหน้าขยายตัวเต็มกำลัง จึงกลายเป็นโอกาสสำคัญให้บริษัทคว้างานประมูลใหม่เพิ่มในอนาคต