“ทรัมป์” ขู่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ฯ หากเจรจา “สี จิ้นผิง” ล้มเหลว

"ทรัมป์" ขู่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ฯ หากเจรจา "สี จิ้นผิง" ล้มเหลว


รายงานข่าวจากต่างประเทศ ระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนทั้งหมด หากตนและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ประสบความล้มเหลวในการเจรจาข้อตกลงการค้า โดยทั้งสองผู้นำพร้อมที่จะประชุมร่วมกันในช่วงก่อนการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ในสัปดาห์นี้

โดยคำขู่ดังกล่าวมีขึ้นขณะปธน.ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอลล์ สตรีท เจอร์นัล โดยคาดว่ามีจุดประสงค์เพื่อบีบให้จีนยอมอ่อนข้อมากขึ้น โดยปธน.ทรัมป์ได้กล่าวโทษจีนหลายครั้งว่าจีนดำเนินการค้าอย่างไม่เป็นธรรม

ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนในวงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณครึ่งหนึ่งของสินค้าจีนทั้งหมดที่สหรัฐนำเข้ามาในแต่ละปี เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาที่ว่ารัฐบาลจีนได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและเทคโนโลยีของสหรัฐ

โดย หนังสือพิมพ์วอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานบทสัมภาษณ์ของปธน.ทรัมป์ว่า “หากเราทำข้อตกลงกันไม่ได้ ผมก็พร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีในวงเงินเพิ่มอีก 2.67 แสนล้านดอลลาร์ ที่อัตรา 10% หรือไม่ก็ 25%”

ทั้งนี้ สินค้านำเข้าจากจีนส่วนที่ยังไม่ถูกเก็บภาษี ซึ่งปธน.ทรัมป์ได้ขู่ที่จะเก็บภาษีนั้น รวมถึง iPhone และแล็ปท็อป ซึ่งหมายความว่าชาวอเมริกันที่ซื้ออุปกรณ์เหล่านี้จะได้รับผลกระทบ

อนึ่งการประชุมระหว่างปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 30 พ.ย.นี้ แต่เว็บไซต์ของอินไซด์ ยูเอส เทรด รายงานว่า ปธน.ทรัมป์และปธน.สีจะพบกันในวันเสาร์ที่ 1 ธ.ค. นอกรอบการประชุม G20 ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา

 

ด้านเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลจีนเปิดเผยว่า การประชุมสุดยอดระหว่างปธน.ทรัมป์กับปธน.สีนั้น มีวาระสำคัญอยู่ที่การโน้มน้าวให้รัฐบาลสหรัฐ ยอมระงับแผนปรับขึ้นภาษีนำเข้าอีก 15% ต่อสินค้าจีนในวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ดังกล่าว

Back to top button