“กรุงศรี” เปิด 4 ปัจจัยหลักกระทบ SET วันนี้! คัด 8 หุ้นเด็ดเน้นกลุ่ม “Domestic play”

บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ธ.ค.) แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้มีมุมมองเป็นกลางถึงบวก โดยคาดดัชนีมีโอกาสฟื้นตัว โดยให้น้ำหนักกับข่าวเฟดชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยหนุนหลัก เป็นบวกต่อทิศทาง Fund Flow ชะลอการไหลออกและมีลุ้นพลิกเป็นซื้อสุทธิมากขึ้นจากที่ขายปรับพอร์ตในตลาดหุ้นไทยในปีนี้ออกไปแล้วกว่า 284,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีลุ้นภาครัฐประกาศปลดล็อกพรรคการเมืองหนุนบรรยากาศกลับมาคึกคัก อย่างไรก็ตามคาดการฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนอาจชะลอการลงทุนก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันรัฐธรรมนูญ และยังมีความไม่แน่นอนต่อประเด็นข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนจากข่าวแคนาดาจับกุม CFO บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี ตามคำเรียกร้องของสหรัฐ โดยวันนี้คาดกรอบแนวต้านที่ระดับ 1,660-1,665 จุด

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy เน้น Domestic play

– กลุ่มค้าปลีก (HMPRO, ROBINS, CPALL) คลังเตรียมออกมาตรการช็อปในช่วงตรุษจีน 1-15 ก.พ.62

– กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD) คาดงบไตรมาส 4/61 เติบโตต่อเนื่องจากการขยายสินเชื่อและสาขาเพิ่มขึ้น

– กลุ่มรับเหมา (STEC, SEAFCO) นิคมฯ (AMATA) รับผลบวกกรอบการเลือกตั้งที่ชัดเจน และคาดว่ารัฐบาลจะประกาศปลดล็อคพรรคการเมืองให้ทำกิจกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค.เป็นต้นไป

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) ข่าวเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ยช่วยพยุงดาวโจนส์ไม่ให้ร่วงแรง ส่วนคืนนี้ติดตามตัวเลข Nonfarm payrolls และ อัตราการว่างงานอีกหนึ่งดัชนีชี้วัดการปรับขึ้นดอกเบี้ย : ดัชนีดาวโจนส์ร่วงแรงกว่า 800 จุดในช่วง 2 ชั่วโมงแรงของการซื้อขาย เนื่องจากกังวลข้อพิพาทสหรัฐและจีนจะบานปลาย จากข่าวแคนาดาจับกุม CFO บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี ตามคำเรียกร้องของสหรัฐ ขณะที่ทางการจีนไม่เห็นด้วยกับการจับกุมดังกล่าว อย่างไรก็ตามดัชนีค่อยๆฟื้นตัวและปิดลดลงเพียง 79 จุด ที่ 24,948 จุด เนื่องจากนักลงทุนตอบรับข่าวเฟดอาจชะลอขึ้นดอกเบี้ยเพื่อรอประเมินสถานการณ์และปัจจัยที่เกี่ยวข้องก่อน ทำให้ความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 19 ธ.ค.นี้ปรับลงเป็น 69.9% จาก 79.6% ในช่วงปลายเดือน พ.ย.

(-) น้ำมันยังผันผวน ประชุม OPEC ไร้ข้อสรุป แต่ยังมีความหวังเพราะ OPEC ต้องการบรรลุข้อตกลงกับรัสเซียในวันนี้ก่อน : การประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบแบ่งเป็น 2 วัน คือ 1) ประชุมของกลุ่ม OPEC จัดประชุมเมื่อวานที่ผ่านมาซึ่งผลประชุมมีความเห็นพ้องให้ลดกำลังการผลิตแต่ยังไม่มีข้อสรุปเป็นตัวเลขอย่างเป็นทางการ เนื่องจากทางกลุ่มต้องการบรรลุข้อตกลงกับทางรัสเซียก่อน, 2) ประชุมร่วม OPEC + Non OPEC (รัสเซีย) จะมีขึ้นในวันนี้ ซึ่งเป็นความหวังสุดท้ายที่จะได้ข้อสรุปในการปรับลดกำลังการผลิต โดย OPEC ต้องการให้รัสเซียลดกำลังการผลิต 250,000 -300,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่ OPEC จะลดกำลังการผลิต 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน

(-) กลุ่มค้าปลีก – ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย.ลดลงสู่ระดับ 80.5 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 :ม.หอการค้ารายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย.ลดลงสู่ระดับ 80.5 จาก 81.3 ในเดือน ต.ค. นับเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากประชาชนยังกังวลต่อผลกระทบจากสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ และ รายได้จากนักท่องเที่ยวที่ลดลงหลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังไม่ฟื้นตัว อย่างไรก็ตามเราคาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นน่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ในระยะถัดไป จากการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของภาครัฐ อีกทั้งยังได้ผลบวกจากราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นบวกต่ออำนาจซื้อที่สูงขึ้น

(+) วันนี้คาดภาครัฐประกาศปลดล็อกพรรคการเมืองหนุนบรรยากาศทางการเมืองกลับมาคึกคัก : วันนี้จะมีการประชุมร่วมระหว่างรัฐบาลและบรรดาพรรคการเมือง เรายังคงมุมมองเป็นบวก โดยคาดว่าการประชุมจะได้ข้อสรุปที่นำไปสู่การประกาศปลดล็อกพรรคการเมืองและการประกาศวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งเราเชื่อว่าการปลดล็อคดังกล่าวจะหนุนให้บรรยากาศและกิจกรรมทางการเมืองในมิติต่างๆกลับมาคึกคักขึ้นทันที โดยเฉพาะกิจกรรมหาเสียงเพื่อเรียกคะแนนจากประชาชน ซึ่งจะมีเม็ดเงินสะพัดหรือหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้น ทั้งนี้จากสถิติในอดีตพบว่าก่อนการเลือกตั้งจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลบวกต่อหุ้นที่มีฐานลูกค้าในกลุ่มรากหญ้า อาทิ กลุ่มค้าปลีก และ กลุ่มไฟแนนซ์