เปิด 3 หุ้นแกร่งวิ่งแรงสวนตลาด! โบรกฯ ชี้ชัดรับผลดีราคาน้ำมันดิบขาลง

เปิด 3 หุ้นแกร่งวิ่งแรงสวนตลาด! โบรกฯ ชี้ชัดรับผลดีราคาน้ำมันดิบขาลง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ล่าสุด ณ เวลา 10.19 น. อยู่ที่ระดับ 9.05 บาท ปรับตัวขึ้น 0.40 บาท หรือ 4.62% สูงสุดที่ 9.25 บาท ต่ำสุดที่ 8.65 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 97.46 ล้านบาท

ขณะเดียวกันราคาหุ้นบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV อยู่ที่ระดับ 4.24 บาท ปรับตัวขึ้น 0.10 บาท หรือ 2.42% สูงสุดที่ 4.26 บาท ต่ำสุดที่ 4.20 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 9.65 ล้านบาท

อีกทั้ง ราคาหุ้นบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC อยู่ที่ระดับ 426 บาท ปรับตัวขึ้น 4 บาท หรือ 0.95% สูงสุดที่ 428 บาท ต่ำสุดที่ 424 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 78.40 ล้านบาท

 

โดย บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ตลาดหุ้นไทยจะถูกถ่วงด้วยการลงของกลุ่มพลังงานและ Sell on Fact กลุ่มธนาคาร ทำให้ถูกจำกัดในกรอบ 1,575-1,590 จุด แต่มองตลาดจะฟื้นตัวในวันพรุ่งนี้หลังผลการประชุม FOMC ดึงดัชนีเข้าใกล้ 1,600 จุดเป็นโอกาสขายเพื่อลดน้ำหนักการลงทุนหนีความเสี่ยง ม.ค.62 โดยวันนี้เลือกหุ้นได้ประโยชน์น้ำมันขาลง AAV ,PTG ,IVL

ทั้งนี้แนะนำให้ติดตามการรายงานสต็อกน้ำมันดิบคืนนี้ อาจช่วยให้ราคาน้ำมัน WTI ฟื้นตัวบ้างหลังดิ่งวานนี้ 7.3% โดยราคาน้ำมัน WTI ร่วงอีก 7.3% ลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 16 เดือนที่ 46.24 เหรียญต่อบาร์เรล ตลาดให้เหตุผลการลงของราคาน้ำมันว่ายังคงกังวลสภาวะอุปทานล้นตลาด และอุปสงค์ที่จะลดลลงตามการชะลอตัวเศรษฐกิจ เหตุผลนี้ดูคุ้นๆคลับคล้ายกับช่วง ก.ค.57-ม.ค.59 ราคาน้ำมันลงติดต่อกันกว่า 70% ด้วยความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนชะลอตัวและผลผลิตล้นตลาดจาก Shale Oil

โดยประเมินราคาน้ำมันซึมซับปัจจัยลบไปพอสมควรแล้ว และไม่น่าจะลงไปต่ำกว่า 40 เหรียญต่อบาร์เรลมากนัก เนื่องจากเป็นระดับที่ไม่คุ้มกับการผลิต Shale Oil และใกล้ระดับต้นทุนเฉลี่ยของผู้ผลิตน้ำมันทั้งโลกที่ราวๆ 30 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล มองราคาที่ต่ำจะทำให้เกิดความร่วมมือลดกำลังการผลิตจากกลุ่มผู้ผลิต OPEC และ Non OPEC มากขึ้น เหมือนอย่างที่เคยทำข้อตกลงกันเมื่อ พ.ย.59 จนทำให้ราคาฟื้นตัวขึ้นมากว่า 24% ในปี 2560 ข้อตกลงของ OPEC และ Non OPEC ในการลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน จะเริ่มขึ้นใน ม.ค.62 และกินเวลายาวไปจนถึง มิ.ย.62 (รวม 6 เดือน) และล่าสุดกำลังการผลิต ธ.ค.61 ของซาอุดิอาระเบียปรับลดลงมาที่ 10.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 11.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน) แม้ที่ผ่านมาตลาดจะไม่ตอบรับต่อปัจจัยนี้และราคาน้ำมันยังคงดิ่งลงต่อเนื่องนับตั้งแต่ที่มีข้อตกลง แต่เชื่อว่าเมื่อข้อตกลงเริ่มมีผลปฎิบัติ ม.ค.62 ตลาดจะหันกลับมาใช้เป็นเหตุในการฟื้นตัวของน้ำมัน

ทั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่หุ้นได้ประโยชน์จากน้ำมันขาลง อ้างอิงจากบทวิเคราะห์กลุ่มพลังงาน 22 พ.ย.61 โดยคุณ จักรพงษ์ เชวงศรี และบทวิเคราะห์กลยุทธ์ค้นหาจุดต่ำสุดของราคาน้ำมัน 22 พ.ย.61 ในกรณีที่ราคาน้ำมันมีความเสี่ยงที่จะเคลื่อนไหวเป็น U-Shape (ลงลึกกว่า 40 เหรียญต่อบาร์เรล) กลุ่มหุ้นที่จะได้ประโยชน์ประกอบไปด้วย

1.กลุ่มที่มีอัตรากำไรขึ้นอยู่กับ Spread ปิโตรเคมี SCC IVL

2.กลุ่มผู้ให้บริการสถานีน้ำมัน PTG ค่าการตลาดปรับเพิ่มขึ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมากว่า 22.5% (เฉพาะดีเซลค่าการตลาดปรับขึ้นจากต้น ต.ค.61 กว่า 70%) อีกทั้งราคาน้ำมันต่ำยังจูงใจให้เกิดการขับขี่ในช่วงฤดูท่องเที่ยวมากขึ้นด้วย

3.กลุ่มสายการบิน AAV ต้นทุนพลังงานคิดเป็นกว่า 40% ของต้นทุนทั้งหมด แม้ผลประกอบการในไตรมาส 4 จะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันไม่มากนัก แต่ในไตรมาส 1 ปีหน้าผลประกอบการน่าจะได้ประโยชน์เต็มไตรมาส อีกทั้งในไตรมาส 1 ยังได้ปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวด้วย

 

 

Back to top button