จังหวะสอย SCC รอรับปันผล 9.50 บ.โบรกฯอัพประมาณกำไรปี 62 โต 4.7หมื่นลบ.-ปรับคำแนะนำ “ซื้อ”

จังหวะสอย SCC รอรับปันผล 9.50 บ.โบรกฯอัพประมาณกำไรปี 62 โต 4.7 หมื่นลบ.-ปรับคำแนะนำ "ซื้อ" เคาะเป้าสูง 530 บ.


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์ เกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2562 เติบโต โดยมีนักวิเคราะห์ประเมิณว่า บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC มีแนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตจากธุรกิจปูนซีเมนต์และบรรจุภัณฑ์ อีกทั้งบริษัทประกาศจ่ายปันผลงวดครึ่งหลังปี 2561 เท่ากับ 9.50 บาท ให้ผลตอบแทนประมาณ 3% นอกจากนี้ยังปรับเพิ่มประมาณการณ์กำไรสุทธิในปี 2562 เพิ่มขึ้น และปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ในราคาเป้าหมายสูงสุด 530 บาทต่อหุ้น

 

ด้าน บล.เอเชีย เวลท์ ประเมินผลงาน SCC ในปี 2562 ยังเติบโตได้ดีจากธุรกิจปูนซีเมนต์และบรรจุภัณฑ์ ซึ่งมองว่าธุรกิจปูนซีเมนต์มีแนวโน้มฟื้นตัวดีต่อเนื่องในปี 2562 ประมาณ 5% สังเกตได้จากความต้องใช้การใช้ปูนซีเมนต์ในกลุ่มพาณิชย์และที่อยู่อาศัยในไตรมาส 4/61 กลับมาเติบโตเป็นบวกได้ต่อเนื่อง คาดส่งผลดีต่อกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่มีแนวโน้มเติบโตตาม ด้านธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (Packaging) คาดว่าปี 2562 นี้ยังเติบโตได้ดีต่อ ในขณะที่ธุรกิจปิโตรเคมีจะเน้นสินค้ามูลค่าเพิ่ม (HVA) มากขึ้นช่วยลดผลกระทบจากราคาที่ปรับลงตามราคาน้ำมัน

อย่างไรก็ดี สงครามการค้าระหว่างระหว่างสหรัฐฯ และจีน ยังเป็นประเด็นเสี่ยงที่อาจทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง รวมถึงราคาน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยนที่มีแนวโน้มผันผวนมากขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทเตรียมมาตรการต่างๆ รองรับไว้แล้ว ได้แก่ (1) การแสวงหาตลาดใหม่ โดยเฉพาะจีนและอาเซียน (2) ให้ความสำคัญมากขึ้นต่อการบริหารต้นทุนโครงการ (3) ปรับราคาขาย พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ  (4) บริหารสินค้าคงเหลือแบบเชิงรุก เพื่อป้องกัน Stock loss และ (5) ใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต เช่น การใช้ Solar farm ลดต้นทุนไฟฟ้า

ทั้งนี้ ได้ปรับประมาณกำไรสุทธิในปี 2562 ขึ้น 2% เป็น 47,503 ล้านบาท โดยเราปรับสมมติฐาน (1) ปริมาณการขายปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างปี 2562 เติบโต 5.0% จากเดิม 2.5 % และ (2) ปริมาณการขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปี 2562 เติบโต 2.0% จากเดิม 1.0% นอกจากนี้บริษัทจะมีการตั้งสำรองตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่ประมาณ 2 พันล้านบาท

พร้อมกันนี้ ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 530 บาทต่อหุ้นอิง EV/EBITDA 9.0 เท่า จากเดิมแนะนำ “ถือ” ให้ราคาเป้าหมาย 460 บาทต่อหุ้น หนุนโดยธุรกิจปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง (CBM) ที่มีแนวโน้มกับมาเติบโตได้ดี ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (Packaging) ที่เติบโตดีต่อเนื่อง ประกอบกับกระแส Fund FIow ต่างชาติที่กลับทิศมาซื้อจะเป็นบวกต่อ SCC 

นอกจากนี้บริษัทประกาศจ่ายปันผลงวดครึ่งหลังปี 2561 เท่ากับ 9.50 บาทต่อหุ้น XD 3 เม.ย.62 จ่าย 19 เม.ย.62 ให้ผลตอบแทนประมาณ 3% (ปรับเต็มปี)

ด้าน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ทยอยซื้อ” หุ้น SCC คงราคาพื้นฐาน 500 บาท โดยศักยภาพเติบโตระยะยาวยังมีจากโครงการใหญ่ที่ประเทศเวียดนาม ในขณะที่ธุรกิจปูนซีเมนต์น่าจะไปได้ดีจากตลาดในประเทศไทยที่เติบโต 3-4% และตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ยังเติบโต

ส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์ยังโตได้ต่อเนื่องจากผลดีการปรับผลิตภัณฑ์ออกจากกระดาษพิมพ์เขียนชัดเจนมากขึ้น แต่ธุรกิจปิโตรเคมีอ่อนเพราะยังกังวลเศรษฐกิจโลกกดดันอุปสงค์ ส่วนต่างราคาคงไม่มีอัพไซด์ (Upside) ขณะที่มีรายจ่ายสำรองจ่ายหลังเกษียณเพิ่มตามกฎหมายใหม่ จึงปรับลดกำไรปี 2562 ลง 5% คาดปันผล 18 บาท

สำหรับกำไรในไตรมาส 4/2561 ออกมาประมาณ 10,000 ล้านบาท ดีกว่าที่ทางฝ่ายและตลาดคาดหมายที่ 9,000 ล้านบาท โดยลดลง 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้รายได้เพิ่ม 3% จากธุรกิจปูนฯ และปิโตรเคมีได้ผลดีราคาขายเพิ่มและปริมาณขายเพิ่ม แต่มาร์จิ้น (Margin) ปิโตรเคมีลดลงจากขาดทุนคงคลังในธุรกิจปิโตรเคมีราว 2,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าผลดีที่มาร์จิ้นธุรกิจปูนฯ และบรรจุภัณฑ์ดีขึ้น ทำให้กำไรลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทประกาศจ่ายปันผลจากผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 ที่ 9.50 บาท รวมทั้งปี จ่าย 18 บาท ลดลงจาก 19 บาท ในปีก่อน ซึ่งมีอัตราการจ่ายปันผล 48% เทียบกับปีก่อน 41%

Back to top button