ปฏิปักษ์คนรุ่นใหม่?

นายกรัฐมนตรีนึกอะไรไม่ทราบ ออกสารฉบับที่ 2 ฉลองเอพริลฟูลส์เดย์ อ้างว่ามีผู้ไม่หวังดีใช้โซเชียลมีเดีย ปลูกฝังแนวคิดที่ไม่ถูกต้อง มุ่งหวังบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รัฐบาลขอความร่วมมือให้ช่วยกันสอดส่องดูแล ผู้ปกครองควรเอาใจใส่ลูกหลาน ครูอาจารย์ต้องอบรมลูกศิษย์ ข้าราชการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ช่วยกันปกป้องบ้านเมืองไม่ให้สั่นคลอน


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

นายกรัฐมนตรีนึกอะไรไม่ทราบ ออกสารฉบับที่ 2 ฉลองเอพริลฟูลส์เดย์ อ้างว่ามีผู้ไม่หวังดีใช้โซเชียลมีเดีย ปลูกฝังแนวคิดที่ไม่ถูกต้อง มุ่งหวังบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รัฐบาลขอความร่วมมือให้ช่วยกันสอดส่องดูแล ผู้ปกครองควรเอาใจใส่ลูกหลาน ครูอาจารย์ต้องอบรมลูกศิษย์ ข้าราชการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ช่วยกันปกป้องบ้านเมืองไม่ให้สั่นคลอน

ถัดมา ผู้บัญชาการทหารบกก็ “เดือด” อ้างว่ามีซ้ายตกขอบ ยกทฤษฎีต่างชาติคิดเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ให้หยุดวาทกรรมแบ่งแยกประชาธิปไตยเผด็จการ จะทำให้เกิดสงครามกลางเมือง เพราะมีแต่ประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ยืนยันทหารวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว เป็นทหารอาชีพ กลับเข้าสู่กรมกอง ไม่เกี่ยวข้องการเมือง

ไม่ว่าจะมองอย่างไร คำพูดของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสอง แยกไม่ออกจากสถานการณ์การเมือง ซึ่งภาพใหญ่คือ 2 ขั้วช่วงชิงกันจัดตั้งรัฐบาล โดยฝ่ายหนึ่งถือว่าตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ต้านสืบทอดอำนาจ แต่พรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ไม่ยอม ไปฟ้ององค์กรสื่อ อ้างว่าเป็นประชาธิปไตยเหมือนกัน มิหนำซ้ำ รัฐธรรมนูญนี้ร่างมาเพื่อพวกเรา

ขณะเดียวกัน ขบวนการนักศึกษายุคใหม่กำลังก่อรูป แทบทุกมหาวิทยาลัยล่าชื่อไล่ กกต. กระทั่ง คสช. ออกมาปราม เพราะถ้าประชาชนไม่เชื่อถือผลเลือกตั้ง กระบวนการเปลี่ยนผ่านอำนาจก็พังตั้งแต่ต้น

ที่สำคัญ ยังสอดคล้องกับการปลุกกระแส “ขวาพิฆาตซ้าย” โดยสื่อดาวสยามยุคใหม่ แพร่คลิปตัดตอน ปลุกกลุ่มอนุรักษนิยมตกขอบ ให้เกลียดชัง จนอาจจะถึงขั้นมีคนไปทำร้าย ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ควบคู่ไปกับการดิสเครดิตว่าธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปกปิดโอนหุ้น

น่าสังเกตว่าการปลุกความเกลียดชังนี้เกิดขึ้นหลังจากพรรคอนาคตใหม่กวาดคะแนนนิยม 6.2 ล้าน ได้ ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 80 คน ทั้งที่ปรามาสกันว่า 10-20 ก็เก่งแล้ว

ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไปต่อสำเร็จ พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งชนะในแทบทุกเขตมหาวิทยาลัย ได้คะแนนท่วมท้นในเมืองใหญ่ จะกลายเป็นฝ่ายค้านที่แหลมคมและทรงพลังกว่าเพื่อไทย ซึ่งไม่ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ไม่มีหัวในสภา ดังที่เคยเขียนไว้ว่า การเมืองยุคต่อไปคือ ประยุทธ์ VS ธนาธร

ทุกคนก็มองออก อนาคตใหม่ประกาศจุดยืนเข้มแข็ง “ลบล้างผลพวงรัฐประหาร” แก้รัฐธรรมนูญ และปฏิรูปกองทัพ ตัดงบ 30% มาทำรัฐสวัสดิการ

คำพูดของทั้งสอง พุ่งเป้าไปที่พรรคอนาคตใหม่หรือไม่ ก็แล้วแต่สังคมจะใช้วิจารณญาณ แต่อย่างน้อย ทั้งสองก็ไม่ใช่คนกลาง พล.อ.ประยุทธ์ต้องการอยู่ต่อ กองทัพก็ไม่ต้องการให้ตัดงบประมาณ

ถ้อยคำของ พล.อ.ประยุทธ์ และ ผบ.ทบ. ยังแสดงท่าทีแข็งกร้าว มองคนเห็นต่าง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่เป็นพวกดัดจริต เรียนเมืองนอกแล้วไม่ยอมปรับตัว ไม่เข้าใจความเป็นไทย ไม่ยอมรับประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ที่ต้องให้ทหารทำรัฐประหารเป็นพัก ๆ

หรือไม่ก็เป็นพวกไม่มีสมอง ตกเป็นเหยื่อ จนต้องให้พ่อแม่ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ ช่วยกันอบรมสั่งสอนสอดส่องดูแล

ประเด็นนี้สิขำหนัก ท่านจะผลักคนรุ่นใหม่ไปอยู่ตรงข้าม ผูกขาดความดีมีศีลธรรม ความมั่นคงของชาติ ไว้กับคนรุ่นเก่า กับกลุ่มคนที่มีความคิดอนุรักษนิยม “ขวาตกขอบ” และอำนาจรัฐราชการ เท่านั้นหรือ

ถ้าทำไม่สำเร็จจะทำอย่างไร จะใช้อำนาจคุกคาม ปราบปราม ตั้งข้อหา เพื่อทำลายพลังคนรุ่นใหม่ ? โดยเชื่อว่าเด็ดหัวโจกได้ คนรุ่นใหม่หลายล้านจะกลับไปเชื่อฟัง ว่านอนสอนง่าย ?

มันเป็นไปไม่ได้หรอก ทุกฝ่ายต้องปรับตัวให้เข้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ปรับตัวไม่ได้ ก็แพ้โลกโซเชียล แล้วยังมาโอดครวญ ว่าร้ายกาจกว่าอาวุธทุกชนิดที่กองทัพมีอยู่

Back to top button