SET ทรงตัว หุ้นพลังงานกดดันราคาน้ำมันปรับฐานแรงเก็บ 20 บจ.เด็ด ก่อนดัชนีฟื้น เลือกพักเงินหุ้นปันผล

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.19 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.85 บาทต่อเหรียญ ด้านที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตากรีซยื่นข้อเสนอใหม่ในที่ประชุม EU วันนี้ หวังปลดล็อกเงินกู้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้กลับมาแกว่งในกรอบ 1,465-1,480 จุด หลังปรับฐานลง 2.17% นับตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย.ถึงวานนี้ หุ้นหลักในกลุ่มพลังงานมีโอกาสปรับตัวลงจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับฐานแรง ขณะที่กลุ่มแบงก์มีโอกาสฟื้นตัว เก็งกำไรหุ้นสายการบิน และหุ้นขนาดกลางที่มีประเด็นเฉพาะตัว หรือพักเงินที่หุ้นปันผลดี หุ้นเด่นเลือก BCP-BMCL-IFEC-WHA-TASCO-PTT-PTTEP-PTTGC-BA-AAV-CK-STEC-SEAFCO-AOT-INTUCH-TRUEIF-EA-HANA-PLE และ KKC

 

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (7 มิ.ย.) ให้น้ำหนักการลงทุนวันนี้กลับมาเป็น “กลาง” อีกครั้ง หลังตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดการขายปิดความเสี่ยงกรณีกรีซวานนี้ แม้ว่าประเด็นดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และการลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างจำกัดก็ตาม

ทั้งนี้หุ้นหลักในกลุ่มพลังงานมีแนวโน้มปรับฐานลงต่อ จากแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับฐานลงแรงคืนวานนี้ ขณะที่กลุ่มธนาคารเชื่อว่าจะทรงตัวถึงฟื้นตัว หลังราคาปรับฐานลงมาสะท้อนปัจจัยเสี่ยงของการเพิ่มขึ้น NPLs ไปมากแล้ว จากการขยับทั้ง 2 กลุ่มหลัก น่าจะมีแนวโน้มชดเชยซึ่งกันและกัน

ประเมิน SET INDEX ปรับฐานลง 2.17% นับตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย.ถึงวานนี้ และต่างชาติขายสุทธิ 2.3 หมื่นล้านบาท จากต้นปีน่าจะสะท้อนถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจไทย และ จิตวิทยากรณีกรีซไปมากแล้ว SET INDEX มีแนวโน้มจะกลับมาแกว่งในกรอบอีกครั้ง ระหว่าง 1,465-1,480 จุด โดยเน้นเลือกลงทุนเป็นรายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลางที่แนวโน้มผลการดำเนินงานใน Q2/58 จะเติบโตเด่น และเพื่อปิดความเสี่ยงจากแรงขายของสถาบันทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้จำกัด แนะนำให้เลือกให้ไปพักเงินในหุ้นปันผลระหว่างกาลที่โดดเด่น เช่น INTUCH/LH/SPALI เป็นต้น เพื่อปิดความเสี่ยงจากภาวะการลงทุนที่ไร้ทิศทางที่ชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ประเด็นของกรีซ และการเจรจาหนี้กับทางเจ้าหนี้ Troika ยังเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกยังคงรอความชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าทีของเยอรมัน-ฝรั่งเศส-ECB/IMF ต่อแนวทางการแก้ไขปัญหาระบบสถาบันการเงินในกรีซช่วงสั้นนี้ และกรอบเงื่อนไขการให้เงินช่วยเหลือชุดต่อไปจะยังให้โอกาสกับกรีซมากน้อยเพียงใด กรีซจะต้องหันไปพึ่งเจ้าหนี้รายใหม่ อย่าง “จีน” หรือไม่

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ “นักลงทุนซื้อเก็งกำไรไปก่อนหน้านี้ ให้ถือรอการฟื้นตัว” ส่วนนักลงทุนที่ต้องการปรับพอร์ต อาจให้น้ำหนักกับหุ้นปันผลมากขึ้นในช่วงสั้นนี้ หรือเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางที่มีประเด็นเด่นเฉพาะตัว

Top Pick in Q3/15: BCP/BMCL/IFEC/WHA

Speculative Buy: TASCO

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (7 มิ.ย.) ว่า ปัญหาหนี้กรีซหนุนค่าเงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้น และกดดันราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลงแรง US$3.78/bbl เมื่อคืนนี้ เป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานวันนี้ ซึ่งแนะนำ “ขาย” ลดสัดส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานอย่าง PTT PTTEP PTTGC ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ ขณะที่มีโอกาส “เก็งกำไร” กลุ่มสายการบิน อย่าง BA AAV

แม้ SET อ่อนแอ หลุดแนวรับ 1,476 จุดวานนี้ (และมีโอกาสทดสอบ 1,470 จุด วันนี้) แต่ยังแนะนำ “Selective” หรือ “เลือกซื้อ” เนื่องจาก SET ถูกบิดเบือนจากหุ้น 2 กลุ่มหลักอย่างกลุ่มพลังงาน และธนาคาร ขณะที่กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ท่องเที่ยว ปันผลฯ ยังมีแนวโน้ม Outperform ตลาดต่อไป แนะนำ “ซื้อ” CK STEC SEAFCO AOT INTUCH (ปันผลกลางปีประมาณ 3% ราคาประมูล 4G ขั้นต่ำ ต่ำกว่าที่คาดไว้เดิม) TRUEIF และ EA

 

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (7 มิ.ย.) ว่า Fund Flow ยังคงไหลออกจากตลาดหุ้น แต่มูลค่าการขายสุทธิ และผลกระทบต่อ SET Index จะลดลงตามลำดับ โดยที่ระดับ SET Index 1,450 จุด ซึ่งมีค่า Current PER 16.52 เท่า และ PER สิ้นปี 2558 ที่ 15.15 เท่า น่าจะแข็งแกร่งพอที่จะรับแรงกดดันจาก Sentiment เรื่องกรีซได้ แนะนำเลือก HANA (FV@B48) เป็น Top Pick

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (7 มิ.ย.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค SET เมื่อวันก่อนลดลงและพบรูปของ candlestick แสดงภาพแนวโน้มแบบ breakdown ใต้กรอบ sideway (ใต้ 1,480) สัญญาณ breakdown ชัดเจนขึ้น พบว่าค่า MACD อยู่ที่ -4.74  โดยค่าของ MACD กับแพทเทินกราฟได้สอดคล้องกัน ( MACD-/แพทเทินเป็น breakdown) ภาพตลาดจึงอยู่ในทิศทางแกว่งตัวลง แต่จุดเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขึ้นหากผ่าน 1,480

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,470-1,480

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร PLE และ KKC