GFPT กำไรแจ๋ว! การเงินแข็งแกร่ง Q2 โตต่อเนื่อง

สิ่งสำคัญเมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินของ GFPT เพื่อเป็นตัวแปรในการตัดสินใจ พบว่าฐานะทางการเงินของบริษัทค่อนข้างแข็งแกร่ง แนวโน้ม Q2/62 จะยังเติบโตต่อเนื่อง


คุณค่าบริษัท

มีการวิเคราะห์กันว่าแนวโน้มไตรมาส 2 ปี 2562 ของ บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT จะยังเติบโตต่อเนื่องได้ ทั้งจากงวดเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อน เนื่องจากยอดส่งออกคาดอาจเพิ่มขึ้นราว 10,000 ตัน จากการส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้นไตรมาสละ 2,400 ตัน อีกทั้งราคาไก่ในประเทศปัจจุบันเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 37 บาท/กก. ประกอบกับแรงหนุนโดยราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ทั้งข้าวโพดและกากถั่วเหลืองลดลง

นอกจากนี้ ยังคงประมาณการกำไรสุทธิเดิมในปี 2562-2563 เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 19% จากคาดการส่งออกในปี 2562-2563 เพิ่มขึ้นปีละ 8% และรับรู้กำไรจากบริษัทร่วมทุนเพิ่มขึ้นจาก McKey เป็นหลัก จากอัตรากำลังการผลิตไลน์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 70% ปัจจุบัน GFPT ส่งออกไปจีนคิดเป็นสัดส่วน 10% ของการส่งออก, ญี่ปุ่น 50%, EU 35% และมาเลเซีย 5%

หลังจากผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1 สิ้นสุด 31 มีนาคม 2562 บริษัทมีรายได้จากการขายขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3,966.01 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 3,733.10 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 227.86 ล้านบาท หรือ 0.18 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 145.92 ล้านบาท หรือ 0.12 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นผลจาก 1) รายได้โตเพิ่มขึ้น 6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หลัก ๆ มาจากส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้น 2) ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมดีขึ้น และ 3) อัตราภาษีจ่ายลดลง ส่วนการลดลงจากไตรมาสก่อนเป็นผลจากปัจจัยฤดูกาล

สิ่งสำคัญ เมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินของบริษัทเพื่อเป็นตัวแปรในการตัดสินใจ พบว่า ฐานะทางการเงินของบริษัทค่อนข้างแข็งแกร่ง เพราะบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากถึง 5,938.75 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนเพียง 2,883.74 ล้านบาท ได้ค่า CURRENT RATIO อยู่ที่ระดับ 2.08 เท่า แสดงว่า บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินมากเกินความจำเป็น

ส่วนปัญหาหนี้สินของบริษัทไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง เพราะบริษัทมีหนี้สินรวมแค่ 5,506.92 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีอยู่ 12,955.44 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.43 เท่า แสดงว่า บริษัทไม่มีปัญหาหนี้สินมารบกวน

ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส มีการปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 2562 ขึ้น 2% สะท้อนมาร์จิ้นที่มีแนวโน้มดีขึ้น ประมาณการว่าปีนี้กำไรสุทธิจะเพิ่มสูง (เพิ่มขึ้น 33% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) จากฐานกำไรต่ำในปี 2561 ที่ถูกฉุดด้วยส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่หดตัวไปมาก และการตั้งสำรองผลตอบแทนพนักงานตามกฎหมายใหม่ในไตรมาส 4/2561 แต่ในปีนี้ส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมจะพลิกฟื้นดีขึ้นโดยเฉพาะ McKey หลังโรงงานใหม่ใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นและคาดว่าจะแตะ 80% ได้ในไตรมาส 4/2562

ดังนั้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาพื้นฐานเป็น 16.50 บาท อิงกับ P/E ปีนี้ที่ 15 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 72,285,034 หุ้น 5.77%
  2. นายพิษณุ ศิริมงคลเกษม 64,000,000 หุ้น 5.10%
  3. นายวงศกร ศิริมงคลเกษม 60,000,000 หุ้น 4.79%
  4. นายสุจิน ศิริมงคลเกษม 59,801,080 หุ้น 4.77 %
  5. NICHIREI FOODS INC. 56,716,050 หุ้น 4.52%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายประสิทธิ์ ศิริมงคลเกษม ประธานกรรมการบริษัท
  2. นายอนันต์ ศิริมงคลเกษม ประธานกรรมการบริหาร, กรรมการ
  3. นายวิรัช ศิริมงคลเกษม รองประธานกรรมการ, กรรมการผู้จัดการ
  4. นางสมสิริ อิงโพธิ์ชัย กรรมการ
  5. น.ส.วรรณี ศิริมงคลเกษม กรรมการ

Back to top button