SET แกว่งแคบ-ขาดปัจจัยบวกทั้งใน/ตปท.คัด 22 หุ้นเด่นเหมาะเล่นสั้นช่วงดัชนีผันผวน

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบอยู่ในกรอบ 1,470-1,490 จุด เนื่องจากยังขาดปัจจัยบวกใหม่ทั้งในและต่างประเทศ ที่มีน้ำหนักมากเพียงพอที่จะเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ขณะที่ประเด็นของกรีซ และการเจรจาหนี้กับทางเจ้าหนี้ Troika ยังเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกยังคงรอความชัดเจน ประเมินว่าแนวโน้มตลาดยังเหมาะที่จะเลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรระยะสั้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.09 น. ค่าเงินบาทล่าสุดอยู่ที่ 33.99 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้กรีซ

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบอยู่ในกรอบ 1,470-1,490 จุด เนื่องจากยังขาดปัจจัยบวกใหม่ทั้งในและต่างประเทศ ที่มีน้ำหนักมากเพียงพอที่จะเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ขณะที่ประเด็นของกรีซ และการเจรจาหนี้กับทางเจ้าหนี้ Troika ยังเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกยังคงรอความชัดเจน ประเมินว่าแนวโน้มตลาดยังเหมาะที่จะเลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรระยะสั้น

สำหรับหุ้นเด่นวันนี้ ได้แก่  TSR,IFEC, BANPU, SAMART, RCL, HANA, TUF, SCN,  EPG, TPCH,GUNKUL, PS, GUNKUL, AAV, CK, STEC, SEAFCO, UNIQ, AOT, INTUCH, TRUEIF และ EA

 

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์( 8 ก.ค.) ให้น้ำหนักการลงทุนวันนี้เป็น “กลาง” วันที่ 2 ด่านสำคัญ 1,490-1,500 จุด ยังไม่น่าผ่านในช่วงสั้นๆ นี้ เพราะยังขาดปัจจัยบวกใหม่ทั้งในและต่างประเทศ ที่มีน้ำหนักมากเพียงพอที่จะเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน

ทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก คาดว่าจะแกว่งในกรอบแคบช่วงสั้น เพราะมีปัจจัยกดดันการฟื้นตัวของราคาในช่วงนี้ได้แก่ 1. ความไม่แน่นอนของกรีซ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และ 2. ความกังวลที่อิหร่านจะผ่านการตรวจสอบและการพิจารณาขอหน่วยงาน ซึ่งจะทำให้ อิหร่านกลับมาผลิตน้ำมันดิบและส่งออกได้ในช่วงปลายปีนี้ อย่างไรก็ตามแนวโน้มผลการดำเนินงานของกลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมีใน 2Q58 มีแนวโน้มเติบโตเด่น qoq จากกำไรสต็อคน้ำมันดิบ อีกทั้ง แนวโน้มการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่มากกว่าปกติในเครือ PTT รอบนี้ เพื่อนำส่งเงินเข้าคลัง ทำให้กลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี จะมี downside risk จำกัดในช่วงสั้นนี้

ขณะที่ประเด็นของกรีซ และการเจรจาหนี้กับทางเจ้าหนี้ Troika ยังเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกยังคงรอความชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าทีของเยอรมัน – ฝรั่งเศส – ECB / IMF ต่อแนวทางการแก้ไขปัญหา ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ผู้นำอียูยังไม่ได้ข้อสรุปต่อแผนที่นายกฯ กรีซ เสนอไปในคืนวานนี้ เชื่อว่าการเจรจาระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ จะมีความยืดเยื้อต่อไปอีกระยะหนึ่ง และมีความเป็นไปได้สูงมากที่ กรีซ จะกลับไปใช้เงินสกุล ดรากม่า ของตนเองอีกครั้ง แต่สถานภาพการเป็นสมาชิกในกลุ่มอียูต่อไปหรือไม่ ยังเป็นสิ่งที่ต้องเจรจาต่อรอง

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ “นักลงทุนซื้อเก็งกำไรไปก่อนหน้านี้ อาจเริ่มพิจารณาขายทำกำไรบริเวณ 1,490-1,500 จุด” และกลับมาถือเงินสด หรือ ปรับพอร์ตเข้าหาหุ้นปันผลระหว่างการที่เด่น เพื่อปิดความเสี่ยงจากความเปราะบางของภาวะการลงทุนในช่วงสั้นนี้

Accumulative Buy: INTUCH

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ก.ค.) ว่า การประชุม รมต.คลัง EU ยังไม่ได้ข้อสรุปเมื่อคืนนี้ โดยที่ประชุมเปิดทางให้กรีซยื่นแผนใหม่เพื่อเจรจารับเงินช่วยเหลือไปจนถึงวันอาทิตย์นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ต่อ EU มูลค่า EUR3.5 พันล้านในวันที่ 20 ก.ค.นี้ ทำให้นักทุนส่วนใหญ่อยู่ในสถานะ Risk-Off ต่อไปจนกว่าจะมีความชัดเจน และคาดว่า SET จะเคลื่อนไหว Sideways กรอบ 1,470-1,490 จุด

แม้คาด SETเคลื่อนไหว ในกรอบ 1,470-1,490 จุด แต่มีโอกาสในการเข้าซื้อกลุ่มหุ้นที่มีแนวโน้ม Outperform ตลาด อย่างกลุ่มรับเหมาฯ สื่อสาร (ปันผลสูง) พลังงานทางเลือก และท่องเที่ยว อย่าง CK STEC SEAFCO (แต่ UNIQ ดูเด่นที่สุดในทางเทคนิค เป้าหมาย 17.9/18.5/19.4 – ดูเพิ่มใน The Technical Story) AOT INTUCH (ปันผลกลางปี 2.8%, ราคาหุ้นต่ำกว่า NAV ที่ 96.2 บาท อยู่ 21%, ประมูลคลื่น 1800MHz พ.ย.นี้, ขณะที่ทางเทคนิคลุ้นไปที่ 80.5/81.5) TRUEIF และ EA

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ก.ค.) ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ เลือกหุ้นเก็งกำไร

ประเมินตลาดจะกลับมารับรู้ปัจจัยภายใน หลังจากที่รับรู้ประเด็นกรีซไปในระดับที่มากแล้ว คาดว่าตลาดจะกลับมารับรู้ความคาดหวังผลดำเนินงานไตรมาส 2 เชิงวิเคราะห์อาจคาดหวังแนวโน้มราคาทรงตัวหรือทยอยปรับสูงขึ้นในระยะสั้น ประเด็นว่าด้วยความคาดหวังการประมูล 4G ในปลายปีอาจส่งผลเชิงบวกจิวิทยาการลงทุนในกลุ่มสื่อสาร ขณะที่หุ้นใหญ่เช่น ธนาคารและพลังงานที่ถูกขายออกมามากนั้น อาจมีแรงซื้อคืนรายตัวได้บ้าง ประเมินว่าแนวโน้มตลาดยังเหมาะที่จะเลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรระยะสั้น

หุ้นเด่นวันนี้ รับเสี่ยงได้เก็งกำไร TSR/สะสมหุ้นหลักที่แนวรับ IFEC,BANPU,SAMART

 

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ก.ค.) คาดปัญหากรีซพร้อมจะกลับมากดดันตลาดได้ แม้ระยะสั้นอาจจะผ่อนคลายลง และในภาวะที่เงินบาทอ่อนค่าแตะ 34 บาทต่อดอลลาร์ แนะเลือกหุ้นที่ได้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้คือ RCL, HANA, TUF วันนี้ยังเลือก HANA(FV@B48) เป็น Top Pick คาดกำไรโดดเด่นในช่วงที่เหลือของปีนี้

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ก.ค.) ยังมีมุมมองในเชิงลบต่อตลาดวันนี้ การรีบาวด์ของ SET วานนี้ยังไม่ได้กลับเป็นแนวโน้มขาขึ้น แม้ตลาดจะรับรู้ปัจจัยลบเดิมๆ ไปค่อนข้างมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ค่าเงินบาทที่ยังคงอ่อนค่า วิกฤตหนี้กรีซ และตลาดหุ้นจีนที่ผันผวนรุนแรง แต่ปัจจัยเหล่านี้ยังไม่สิ้นสุดโดยง่าย ดังนั้นตลาดมีโอกาสปรับลงทำ Low ใหม่ได้

Accumulative BUY :  SCN  EPG TPCH และ GUNKUL (หุ้นเหล่านี้มีปัจจัยเฉพาะตัวไม่พึ่งพิงเศรษฐกิจ) PS (HOLD/เป้า 27.50 บาท) และ GUNKUL (BUY/เป้า 27.50 บาท)

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ก.ค.)  ประเมินแนวรับ 1,460 –1,470  แนวต้าน 1,490  แนะนำเทรดดิ้งด้วยวงเงินจำกัด เพื่อรอดูสถานการณ์กรีซในช่วงสุดสัปดาห์นี้   ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไร  AAV (Consensus@ 6.00) ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง และสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยอยู่ในทิศทางบวก

Back to top button