MFC เพิ่มขนาดกองทุน MPII แตะ 3 พันลบ. หลังยอดจองทะลัก

MFC เพิ่มขนาดกองทุน MPII แตะ 3 พันลบ. หลังยอดจองทะลัก


นายเดนนิส ลิม กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี (MFC) เปิดเผยว่า เอ็มเอฟซีประสบความสำเร็จในการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกของกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิล อินคัม หรือกองทุนเปิด MPII (เอ็มพาย) ซึ่งลงทุนในหลักทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และหรือโครงสร้างพื้นฐาน

ทั้งนี้มีผู้สนใจลงทุนจนล้นมูลค่าโครงการ เอ็มเอฟซีจึงได้จดทะเบียนเพิ่มเงินลงทุนอีกถึง 2,000 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการลงทุนที่มีอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดขายหน่วยลงทุนทุกวันทำการ และผู้ถือหน่วยลงทุนยังสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนแบบสม่ำเสมอได้อีกด้วย โดยแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัวเป็นปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทน  (yield) และมีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอที่น่าสนใจ และมีความผันผวนค่อนข้างต่ำ เช่นการลงทุนใน REIT และ Infra Funds กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิล อินคัม หรือกองทุนเปิด MPII

ดังนั้นจึงเป็นที่น่าสนใจจากการเป็นกองทุนรวมผสมที่มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์และทรัพย์สินทั้งในและต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และหรือโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลปีละไม่เกิน 4 ครั้ง และมีกลยุทธ์การลงทุนแบบมุ่งหวังผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management) ซึ่งจะคัดเลือกลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและหรือมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีการปรับสัดส่วนการลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดการลงทุน

โดยกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา (FX Hedging) โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient portfolio management) (ทั้งนี้กองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และหรือโครงสร้างพื้นฐาน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก)

สำหรับกองทุนเปิด MPII เหมาะสำหรับผู้สนใจลงทุนในระยะปานกลางถึงระยะยาว โดยคาดหวังผลตอบแทนระยะยาวที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วไป สามารถรับความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ ที่กองทุนไปลงทุน ซึ่งอาจจะปรับตัวสูงขึ้นหรือลดลงต่ำกว่ามูลค่าที่ลงทุนและทำให้ขาดทุนได้ และผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังหลักทรัพย์กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และหรือโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน อาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนแรกเริ่มได้

Back to top button