“สรรพากร” เตรียมถก “คลัง” ตัดสินใจแผนลดภาษีเงินได้ 10% ตามนโยบายหาเสียง!

“สรรพากร” เตรียมถก “คลัง” ตัดสินใจแผนลดภาษีเงินได้ 10% ตามนโยบายหาเสียง!


นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ได้เข้ามารับตำแหน่งที่กระทรวงการคลังแล้ว ได้ขอให้กรมสรรพากรเข้ามาชี้แจงถึงความเป็นไปได้ในการลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% ตามแนวนโยบายที่รัฐบาลได้หาเสียงไว้ ซึ่งกรมสรรพากรจะเสนอข้อดีและข้อเสียให้ รมว.คลังได้พิจารณาประกอบการตัดสินใจว่าทำได้หรือไม่

“การลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% กระทบกับรายได้ของกรมสรรพากรค่อนข้างมาก ส่วนจะทำให้ฐานภาษีหายไปเป็นจำนวน 3 ล้านรายตามที่นายกรณ์ จาติกวานิช อดีต รมว.คลัง ระบุไว้หรือไม่นั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะต้องรายงาน รมว.คลัง ก่อน” นายเอกนิติ กล่าว

พร้อมกันนี้ กรมสรรพากร จะเสนอให้ รมว.คลัง เดินหน้าร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เพื่อรองรับการจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) ซึ่งขณะนี้ยังค้างอยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการไทย

ปัจจุบัน การให้บริการซื้อสินค้าและบริการบนเว็บไซต์ หรือแพลตฟอร์มที่จดทะเบียนในต่างประเทศ แต่มีรายได้เกิดขึ้นในประเทศไทย จึงทำให้ไม่ต้องเสียภาษีใดๆ ให้กับประเทศไทย เช่น facebook, Google, Amazon เป็นต้น ซึ่งเบื้องต้นจะเสียเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่มที่เป็นรายได้ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถเก็บภาษีกำไรจากการดำเนินกิจการได้

อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า สำหรับมาตรการลดหย่อนภาษีจากการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่จะสิ้นสุดในสิ้นปี 2562 นี้ กรมสรรพากรยังยืนความเห็นว่าไม่ควรต่ออายุอีกต่อไป แต่ยังสนับสนุนมาตรการลดหย่อนภาษีจากการลงทุนในกองทุนเพื่อการเกษียณอายุ (RMF) ต่อไป

นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า รมว.คลัง ได้เรียกให้ สคร. มารายงานการเปลี่ยนแปลงตัวกรรมการในรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าต้องทำอย่างไรบ้าง มีขั้นตอนการดำเนินการอย่างไร ส่วนจะมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการในรัฐวิสาหกิจมากน้อยเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ รมว.คลังคนใหม่

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้น สามารถส่งผู้แทนกระทรวงการคลังเข้าไปนั่งเป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจทุกแห่งได้ ซึ่งที่ผ่านมา รัฐวิสาหกิจมีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากมีงบลงทุนในแต่ละปีสูงถึง 5-6 แสนล้านบาท

Back to top button