สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 ส.ค. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 ส.ค. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่เริ่มมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ การที่จีนได้กำหนดอัตราค่ากลางเงินหยวนในระดับสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดเมื่อวานนี้ ยังช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และยังเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นด้วย เนื่องจากบริษัทหลายแห่งในกลุ่มนี้ได้เข้าไปลงทุนจำนวนมากในประเทศจีน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,378.19 จุด พุ่งขึ้น 371.12 จุด หรือ +1.43% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดดที่ 2,938.09 จุด เพิ่มขึ้น 54.11 จุด หรือ +1.88% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,039.16 จุด เพิ่มขึ้น 176.33 จุด หรือ +2.24%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่จีนเปิดเผยตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้นเกินคาด และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.66% ปิดที่ 374.71 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,387.96 จุด เพิ่มขึ้น 121.45 จุด หรือ +2.31% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,845.41 จุด เพิ่มขึ้น 195.26 จุด หรือ +1.68% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,285.90 จุด เพิ่มขึ้น 87.20 จุด หรือ +1.21%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้นอีกครั้ง หลังจากจีนเปิดเผยยอดส่งออกเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเกินคาด ซึ่งช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การฟื้นตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอังกฤษจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ได้ช่วยหนุนตลาดด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,285.90 จุด เพิ่มขึ้น 87.20 จุด หรือ +1.21%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) อาจปรับลดกำลังการผลิตลงอีก หลังมีรายงานว่า ซาอุดีอาระเบียกำลังหารือกับประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่ดิ่งลงในระยะนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.45 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 52.54 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.15 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 57.38 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นกว่า 300 จุด โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 10.10 ดอลลาร์ หรือ 0.66% ปิดที่ 1,509.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 26 เซนต์ หรือ 1.51% ปิดที่ 16.936 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 3.50 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 867.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,413.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและฟรังก์สวิส ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลการค้าของจีนและเงินหยวนที่เริ่มมีเสถียรภาพ อย่างไรก็ดี ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพก็ตาม

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9751 ฟรังก์ จากระดับ 0.9736 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 105.97 เยน จากระดับ 106.09 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3239 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3314 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1186 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1214 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2133 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2143 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6805 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6767 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button