สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 11 ก.ย. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 11 ก.ย. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากรัฐบาลจีนเปิดเผยรายชื่อสินค้าของสหรัฐที่ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า ก่อนที่การเจรจาการค้าระหว่างสองประเทศจะเปิดฉากขึ้นในเดือนหน้า โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของราคาหุ้นแอปเปิล หลังจากบริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ iPhone รุ่นใหม่

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,137.04 จุด เพิ่มขึ้น 227.61 จุด หรือ +0.85% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,000.93 จุด เพิ่มขึ้น 21.54 จุด หรือ +0.72% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,169.68 จุด เพิ่มขึ้น 85.52 จุด หรือ +1.06%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน และขานรับความหวังที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ในการประชุมนโยบายการเงินในวันพฤหัสบดีนี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.85% ปิดที่ 389.71 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,618.06 จุด เพิ่มขึ้น 24.86 จุด หรือ +0.44%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,359.07 จุด เพิ่มขึ้น 90.36 จุด หรือ +0.74% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,338.03 จุด เพิ่มขึ้น 70.08 จุด หรือ +0.96%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน และขานรับแนวโน้มที่ธนาคารกลางต่างๆ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,338.03 จุด เพิ่มขึ้น 70.08 จุด หรือ +0.96%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) หลังจากสื่อรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน เพื่อหวังปูทางไปสู่การพบปะกับประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี ผู้นำอิหร่าน นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันหลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลกปีนี้และปีหน้า

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.65 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 55.75 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย.

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.57 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 60.81 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินในการประชุมเดือนก.ย.

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 1,503.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.6 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 18.17 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 3.6 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ 940.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.70 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,556.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรวัดเงินเฟ้อของสหรัฐนั้น ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนส.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ รวมทั้งการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.77 เยน จากระดับ 107.43 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9929 ฟรังก์ จากระดับ 0.9909 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3193 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3150 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1007 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1046 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าแตะที่ระดับ 1.2324 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2353 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 0.6861 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6860 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button