กลุ่ม “ซีพี” ตอบรับเงื่อนไข “ไฮสปีดเทรน 3 สนามบิน” จ่อเซ็นสัญญา 25 ต.ค.นี้!

กลุ่ม “ซีพี” ตอบรับเงื่อนไข "ไฮสปีดเทรน 3 สนามบิน" จ่อเซ็นสัญญา 25 ต.ค.นี้!


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ว่า ได้รับคำยืนยันว่ากลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (กลุ่ม CPH) พร้อมที่จะเข้ามาเซ็นสัญญาตามกำหนดเวลาในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ตามที่คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังกลุ่ม CPH

“เลขาธิการคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้ทำการประสานไปยังกลุ่มซีพีอย่างไม่เป็นทางการแล้ว ซึ่งทางกลุ่มซีพีได้ยืนยันว่าพร้อมที่จะเข้ามาเซ็นสัญญาตามกำหนดเวลา”

ขณะที่ รมว.คมนาคม กล่าวถึงปัญหาที่ต้องเสนอเรื่องให้คณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (บอร์ด รฟท.) เห็นชอบก่อนนั้นว่า ได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว โดยได้มีการตั้งคณะกรรมการ รฟท.ชุดใหม่ตามกฎหมายแล้ว ซึ่งกระทรวงการคลังเห็นชอบและส่งให้กระทรวงคมนาคมดูแล้ว หลังจากนั้นได้ส่งเรื่องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการ รฟท.ได้ทันที โดยไม่ต้องมีการประชุม เพราะมีอำนาจตามตำแหน่ง และจะเสนอรายชื่อคณะกรรมการ รฟท.ชุดใหม่ให้ ครม.ได้พิจารณาเห็นชอบในวันที่ 15 ต.ค.นี้

โดยหลังจากนั้น คณะกรรมการ รฟท.จะมีการประชุมในทันที เพื่อรับทราบการดำเนินการเซ็นสัญญาโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะไม่มีปัญหา เพราะคณะกรรมการ รฟท.มีหน้าที่รับทราบเท่านั้น เพราะถ้าคณะกรรมการ รฟท.ไม่มีมติรับทราบ ก็จะทำให้ผู้ว่า รฟท.ไม่มีอำนาจในการเซ็นสัญญาผูกพันในโครงการดังกล่าวได้ และเมื่อคณะกรรมการ รฟท.รับทราบแล้วจะเสนอเรื่องการเซ็นสัญญากับกลุ่มซีพีให้ ครม.เห็นชอบในวันที่ 22 ต.ค.62 เพื่อให้การเซ็นสัญญาเป็นไปตามกำหนด

“วันนี้ ทุกคนมีเจตนาที่จะทำเรื่องนี้ให้เกิดขึ้น เพราะเป็นเรื่องสำคัญของประเทศ วันนี้ไม่มีอะไรแล้ว เพียงแต่ทำให้กระบวนการมันถูกต้อง ครบถ้วนเท่านั้นเอง ด้านเอกชนเองก็อยากลงนาม ยืนยันว่าไม่ได้มีการทะเลาะเบาะแว้งกัน ทุกคนอย่างให้โครงการนี้สำเร็จ แต่เงื่อนไขอยู่ที่ว่าการส่งมอบพื้นที่มีความจำเป็น หากไม่มีการกำหนดเวลาชัดเจน รถไฟฟ้ากับสนามบินจะไม่เชื่อมกัน เอกชนจะมีปัญหา เพราะเป็นโครงการร่วมทุน ไม่ใช่จ้างทำ ตอนนี้คุยกับฝ่ายเอกชนแล้ว ถ้าเป็นไปตามนี้ก็สามารถลงนามได้” รมว.คมนาคม กล่าว

ด้านนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) กล่าวว่า การส่งมอบพื้นที่โครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน สามารถดำเนินการได้แล้ว 72% ประกอบด้วย 3 ส่วนที่สำคัญ ได้แก่

1. ระยะทางระหว่างสถานีพญาไท-สถานีสุวรรณภูมิ ระยะทาง 28 กิโลเมตร ซึ่งเป็นโครงการแอร์พอร์ตเรลลิ้งก์ พร้อมส่งมอบพื้นที่ได้ทันที

2. ระยะทางระหว่างสถานีสุวรรณภูมิ-สถานีอู่ตะเภา ระยะทาง 170 กิโลเมตร คณะทำงานส่งมอบพื้นที่จะสามารถดำเนินการส่งมอบพื้นที่ทั้งหมดได้ภายใน 1 ปี 3 เดือน ทำให้ระยะทางตั้งแต่สถานีพญาไท-สถานีอู่ตะเภา จะเปิดให้บริการได้ในปี 2566-2567

3. สถานีพญาไท-ดอนเมือง ระยะทาง 22 กิโลเมตร เป็นส่วนที่ดำเนินการได้ยากที่สุด เนื่องจากต้องมีการเคลื่อนย้ายระบบสาธารณูปโภค มีความเกี่ยวข้องกับ 3 กระทรวง 8 หน่วยงาน คาดว่าจะใช้เวลาในการส่งมอบพื้นที่ 2 ปี 3 เดือน ซึ่งจะเปิดให้บริการได้ในปี 2567-2568

“การส่งมอบพื้นที่ทั้งหมด ทางผู้ชนะการประมูลได้รับทราบเงื่อนไขดังกล่าวหมดแล้ว ซึ่งไม่มีปัญหาใด ๆ ในการเซ็นสัญญา เพราะว่าทุกหน่วยงานอยากให้โครงการนี้เกิดขึ้น เพราะหากสร้างสนามบินเสร็จแล้ว แต่รถไฟไม่เสร็จ จะทำให้เกิดปัญหาในการเชื่อมต่อได้” นายคณิศ กล่าว

ด้าน นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เห็นชอบการส่งมอบพื้นที่สำหรับก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน พร้อมทั้งให้มีการตั้งคณะทำงานส่งมอบพื้นที่ โดยมีปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน และจะมีการเสนอให้คณะกรรมการอีอีซี ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เห็นชอบต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้การก่อสร้างโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน สามารถเดินหน้าต่อได้ตามแผน โดยจะมีการเซ็นสัญญากับกลุ่มซีพี ซึ่งชนะการประมูลในวันที่ 25 ต.ค.นี้

Back to top button