PRIME ล้มแผนลดทุน-ลดพาร์ แจงขอทบทวนรายละเอียดล้างขาดทุนสะสมใหม่

PRIME ล้มแผนลดทุน-ลดพาร์ แจงขอทบทวนรายละเอียดชดเชยขาดทุนสะสมใหม่


บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIME แจ้งว่าตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 19 ก.ย. อนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) จากเดิมมูลค่าหุ้นละ 1 บาท เป็นมูลค่าหุ้นละ 2 บาท หลังจากนั้นให้ลดทุนจดทะเบียน ด้วยการลดพาร์เหลือหุ้นละ 0.50 บาท เพื่อชดเชยขาดทุนสะสม และส่วนต่ำมูลค่าหุ้น อันเกิดจากการรับโอนกิจการ โดยเตรียมที่จะเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 ในวันที่ 15 พ.ย.62 ให้พิจารณานั้น

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริษัทมีความประสงค์ที่จะทบทวนรายละเอียด เงื่อนไข และแนวทางการดำเนินการดังกล่าว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้ง ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 25,514,280,600 บาท แบ่งออกเป็น 25,514,280,6600 หุ้น และทุนจดทะเบียนชำระแล้ว จำนวน 17,017,941,757 บาท แบ่งออกเป็น 17,017,941,757 หุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท ซึ่งตามกฏหมายบริษัทมหาชนจำกัด กำหนดให้ภายหลังการเปลี่ยนแปลงพาร์ และจำนวนหุ้นของบริษัท โดยการรวมพาร์ของบริษัท จากเดิมหุ้นละ 1 บาท เป็นหุ้นละ 2 บาท ทุนจดทะเบียนและทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท จะต้องเป็นจำนวนเต็มและไม่สามารถเป็นเศษหุ้นได้ ทำให้บริษัทยังไม่สามารถดำเนินการตามแผนการดังกล่าวได้

ดังนั้น เมื่อวันที่ 24 ต.ค.62 บริษัทได้จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 19/2562 โดยคณะกรรมการมีมติยกเลิกวาระการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 ที่สำคัญ ได้แก่  การพิจารณาอนุมัติการเปลี่ยนแปลงพาร์และจำนวนหุ้นของบริษัท โดยการรวมพาร์จากเดิมมูลค่าหุ้นละ 1 บาท เป็นมูลค่าหุ้นละ 2 บาท และเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้นของบริษัทโดยใช้วิธีการคำนวณ คือ อัตราหุ้นเดิม 2 หุ้น เป็น 1 หุ้นใหม่  ,การลดทุนจดทะเบียนชำระแล้ว โดยการลดพาร์ เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมและส่วนต่ำมูลค่าหุ้นสามัญ เป็นต้น

ทั้งนี้ ภายหลังการยกเลิกนำเสนอวาระดังกล่าวแล้ว จะทำให้วาระในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 ประกอบด้วย พิจารณารับรองรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 ,พิจารณาอนุมัติการให้บริษัท ไพร์ม โรด อัลเทอร์เนทีฟ จำกัด (PRA) เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินขนาด 60 เมกะวัตต์ จังหวังกำปงชนัง ประเทศกัมพูชา ,พิจารณาอนุมัติการกำหนดค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีประจำปี 2562 และเรื่องอื่น ๆ

โดยบริษัทจะพิจารณาหาแนวทางการดำเนินการ เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมและส่วนต่ำมูลค่าหุ้นสามัญอันเกิดจากการรับโอนกิจการต่อไป

Back to top button