AAV ดีดแรง 4% รับผลดีคลังไฟเขียวลดภาษีน้ำมันเครื่องบิน โบรกฯแนะซื้อเป้า 4.16 บ.

AAV ดีดแรง 4% รับผลดีคลังไฟเขียวลดภาษีน้ำมันเครื่องบิน โบรกฯแนะซื้อเป้า 4.16 บ. ล่าสุดอยู่ที่ 1.81 บาท บวก 0.07 บาท หรือ 4.02% มูลค่าซื้อขาย 74.04 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ล่าสุด ณ เวลา 12.14 น. อยู่ที่ 1.81 บาท บวก 0.07 บาท หรือ 4.02% สูงสุดที่ 1.82 บาท ต่ำสุดที่ 1.74 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 74.04 ล้านบาท

โดย บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ ระบุว่า หากกรมสรรพสามิตหากลดภาษีน้ำมันเครื่องบิน  คาดหุ้นสายการบินที่จะได้ประโยชน์มากจากประเด็นข้างต้น คือ AAV, NOK และ BA ซึ่งมีเส้นทางบินหลักในประเทศ ส่วน THAI ได้ประโยชน์ไม่มากเพราะมีเส้นทางบินระหว่างประเทศเป็นหลัก

ทั้งนี้หากกรมสรรพสามิตลดภาษีน้ำมันเครื่องบินลงจากปัจจุบันเก็บอยู่ที่ 4.726 บาทต่อลิตร กลับไปใช้ในอัตราเดิมที่ 0.20 บาทต่อลิตร (ซึ่งเป็นอัตราก่อนที่จะมีการขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบินในปี 2560) ฝ่ายวิจัยประเมินส่งผลบวกต่อ AAV และ BA ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานลงจากเดิม 1,300 ล้านบาทต่อปี และ 700-800 ล้านบาทต่อปีตามลำดับ ปัจจุบันต้นทุนน้ำมันเครื่องบินอยู่ที่ 14.31 บาทต่อลิตร และเมื่อรวมอัตราภาษีน้ำมันแล้วจะอยู่ที่ 19.50 บาทต่อลิตร

โดยแนะนำ “ซื้อ” AAV ราคาเป้าหมาย 4.16 บาท และเลือกเป็นหุ้น Top Pick ของกลุ่ม จากจุดเด่นเป็นผู้ประกอบการสายการบินที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงและบริหารต้นทุนดีที่สุด คาดผลประกอบการฟื้นเป็นกำไรในปี 2563 โดยขณะนี้ราคาหุ้นถูกซื้อขายที่ Forward PBV ปี 2563 ที่เพียง 0.5 เท่า เท่านั้น

เช่นเดียวกับ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า จากกรณี นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เปิดเผยว่า ครม.เศรษฐกิจเห็นชอบมาตรการพยุงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจากผลกระทบการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยในส่วนของธุรกิจสายการบินจะให้มีการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินเป็นการชั่วคราวและการปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมการขึ้น-ลงของอากาศยาน ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะนำไปพิจารณาเพื่อช่วยเหลือธุรกิจสายการบิน โดยเฉพาะมาตรการทางภาษี โดยจะนำเสนอ ครม.ต่อไปนั้น มองเป็นบวกต่อกลุ่มสายการบิน

ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2560 ธุรกิจสายการบินได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินจากเดิม 0.20 บาท/ลิตร เป็น 4.70 บาท/ลิตร โดยหากมีการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์มากสุด ได้แก่ NOK, AAV, BA เนื่องจากมีเที่ยวบินหลักในประเทศมาก ขณะที่ THAI จะได้ประโยชน์น้อยกว่าเนื่องจากส่วนใหญ่เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ

โดยคาดว่ารัฐบาลจะมีการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินเป็นการชั่วคราวราว 3-6 เดือน เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งทำให้จำนวนผู้โดยสารปรับตัวลดลงมาก โดยเฉพาะจากจีน

สำหรับ AAV ประเมินว่าค่าใช้จ่ายภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินในปี 2563 จะอยู่ที่ 150 ล้านบาท/เดือน (ประมาณ 1.8 พันล้านบาท/ปี) อย่างไรก็ตาม คาดว่าสายการบินจะต้องมีการปรับลดค่าตั๋วโดยสารลงตามต้นทุนที่ลดลง ส่งผลให้คาดว่าจะทำให้ AAV มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นราว 30-35 ล้านบาท/เดือน หากมีการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินชั่วคราว 3 เดือน และ 6 เดือน จะทำให้กำไรของ AAV เพิ่มขึ้นราว 100 ล้านบาท และ 200 ล้านบาท ตามลำดับ จึงมองเป็นบวกชั่วคราวต่อ AAV แนะนำ “ถือ” และประเมินราคาเป้าหมาย 3 บาท โดยยังคงต้องติดตามผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

Back to top button