“ดาวน์ฟิวเจอส์”-หุ้นยุโรป พลิกร่วงระนาว หลังตัวเลข “ว่างงานมะกัน” พุ่งปรี๊ด 6.65 ล้านคน

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พลิกร่วงลงสู่แดนลบ หลังจากทะยานขึ้นกว่า 400 จุดในช่วงแรก โดยได้ผลกระทบจากการเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่พุ่งขึ้นเกินคาด โดย ณ เวลา 20.22 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 89 จุด หรือ 0.43% สู่ระดับ 20,651 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปติดลบเป็นส่วนใหญ่ดังนี้

โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 6.6 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.1 ล้านราย

สำหรับตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวสูงกว่าตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนหน้านี้ที่มีการรายงานในสัปดาห์ที่แล้วที่ระดับ 3.3 ล้านราย

โดยการพุ่งขึ้นของตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานมีสาเหตุจากการที่ภาคธุรกิจได้พากันปิดกิจการ จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 327,250 ราย สู่ระดับ 2.054 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค.2560

ทั้งนี้ก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สหรัฐรายงานตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 695,000 รายในปี 2525 ขณะที่ตัวเลขสูงสุดในช่วงเศรษฐกิจถดถอยอยู่ที่ 665,000 รายที่ทำไว้ในเดือนมี.ค.2552

ด้านดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นในช่วงแรก ขานรับราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้น 10% ท่ามกลางความคาดหวังที่ว่าซาอุดีอาระเบียและรัสเซียจะสามารถยุติการทำสงครามราคา ทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดวันนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ