PSH คาดผลงานไตรมาส 1 หดตัว เซ่นพิษโควิด-19 ทำยอดขายโอนชะงัก

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-แวลู บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ในเครือบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/63 คาดว่าจะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาส 4/62 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และการดำเนินธุรกิจด้วย ทำให้ในไตรมาส 1/63 แม้ว่าบริษัทจะเน้นระบายสต็อกแต่การขายก็เป็นไปอย่างช้า

โดยในไตรมาสแรก มีจำนวนลูกค้าเข้าชมโครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทลดลงไปราว 20% โดยเฉพาะในช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมทำให้ยอดขายชะลอตัว  ขณะที่การโอนโครงการก็ชะลอตัวลงเช่นเดียวกัน  โดยเฉพาะโครงการที่สร้างเสร็จแล้วพร้อมอยู่ ทั้งคอนโดมิเนียมและแนวราบที่ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อในช่วงนี้ จากความไม่มั่นใจภาวะเศรษฐกิจ และผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย

ส่วนในไตรมาส 2/63 ยังมองว่าสถานการณ์ของการขายยังไม่ฟื้นตัว และอาจจะลดลงต่อเนื่องในช่วงเดือนเม.ย.นี้ หลังการแพร่ระบาดของไวรัสยังไม่ลดลง อีกทั้งภาครัฐมีมาตรการควบคุมที่เข้มขึ้น แม้ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาช่วยสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน แต่ทุกคนยังอยู่ในช่วงระมัดระวังการใช้จ่าย ทำให้การขายและการโอนในไตรมาส 2/63 จะยังคงชะลอตัวต่อจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา

“สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้เป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งมีผลกระทบต่อแผนงานและเป้าหมายของบริษัทที่ตั้งไว้แน่นอน ปัจจุบันเราอยู่ระหว่างการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมปรับแผนรับมืออยู่ตลอด อย่างตอนนี้การขายก็มาขายผ่านออนไลน์แทน และมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าเข้ามาเพิ่มเติม ทำให้ลูกค้าของเรายังอยู่ได้ ส่วนแผนงานและเป้าหมายที่ปรับกันใหม่น่าจะชัดเจนอีกครั้งหลังสถานการณ์ของไวรัสคลี่คลาย ตอนนี้ก็ติดตามและรับมือไปก่อน”นายปิยะ กล่าว

สำหรับการปรับตัวของบริษัทในช่วงนี้ได้ปรับการขายมาใช้ช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยนำงบการตลาดที่ใช้ในการทำแคมเปญผ่านการขายในสำนักงานขายมาเพิ่มให้กับช่องทางออนไลน์ ในการทำแคมเปญกระตุ้นและมอบราคาพิเศษให้กับลูกค้า เพื่อกระตุ้นการขายในช่วงนี้ พร้อมกับควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทั้งต้นทุนการบริหารงานภายในบริษัท และต้นทุนการก่อสร้าง ซึ่งในช่วงที่ราคาน้ำมันลดลงไปมาก ส่งผลบวกต่อต้นทุนก่อสร้างที่ลดลงตามด้วย โดยการควบคุมต้นทุนต่าง ๆ เพื่อทำให้บริษัทยังมีความสามารถในการทำกำไรที่ดีได้ ในภาวะที่เผชิญกับความท้าทายเข้ามาหลายด้าน พร้อมกับการรักษาสภาพคล่องที่ดีต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจยังสามารถเดินหน้าต่อได้